จีนปริทรรศน์: เผือกร้อนเรื่องแรงงานต่างชาติยังไม่จบ
  2012-05-30 17:51:01  cri

จากการที่ทางการกรุงปักกิ่งออกมาตรการ "ซานเฟย" กำจัดชาวต่างชาติที่ทำการมิชอบ 3 ประการ ได้แก่ ลักลอบเข้าประเทศ พำนัก และทำงานอย่างผิดกฎหมาย โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมเป็นต้นมา เรื่องนี้ได้ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางทั้งในหมู่ชาวต่างชาติและปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับคนจีน

สำหรับเรื่องที่ชาวต่างชาติกังวลก็คือ การที่ต้องพกพาสปอร์ตและใบแจ้งการพำนักติดตัวตลอดเวลา เพื่อที่ว่าเวลาพบเจ้าหน้าที่ขณะทำการตรวจสอบจะได้ยื่นแสดงหลักฐานอันชอบด้วยกฎหมายจีนของตนได้ทันที สาเหตุเพราะทางการปักกิ่งได้ประกาศชัดเจนว่าจะดำเนินการตรวจสอบเป็นประจำจำนวน "100 วันเต็ม" ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม – วันที่ 15 สิงหาคม ซึ่งการที่ต้องถือเอกสารสำคัญติดตัวอยู่เสมอนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย เพราะเสียไม่คุ้มได้ หรือหายไม่คุ้มต้องไปทำใหม่ แต่ในเมื่อเป็นเรื่องของกฎหมายและความร่วมมือทุกคนก็พยายามที่จะไม่ลืมถือเอกสารเหล่านี้

ส่วนเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก โดยเฉพาะกับคนที่ไม่มีวีซ่าทำงานอย่างถูกต้อง ซึ่งมีอย่างมากในกรุงปักกิ่ง โดยเฉพาะอาชีพหนึ่งเดียวที่ใครๆ ก็รู้ว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมายแน่นอน และทางการก็ทราบเป็นอย่างดี นั่นก็คือ "ครูสอนภาษาอังกฤษ" ทั้งที่อยู่ตามสถาบันสอนภาษาของเอกชน หรือโรงเรียนของรัฐด้วยก็ตาม คนเหล่านี้ไม่เคยถูกจ้างงานอย่างถูกต้อง และทางผู้จ้างต้องการจ่ายแต่เฉพาะค่าจ้าง และไม่ต้องการจ่ายค่าประกัน และผลประโยชน์อันพึงมีด้านอื่นๆ จึงจ้างพวกเขาแบบลอยเช่นนี้ทั้งหมด และด้วยไม่มีทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการงานและท่องเที่ยว จึงรับทำงานนี้ แถมนายจ้างก็ยังให้ข้อมูลอีกว่า ถ้าบังเอิญถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาทำงานก็จะถูกเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 150 ดอลลาร์เพียงเท่านั้น จึงทำให้ชาวต่างชาติที่ทำงานอย่างผิดกฎหมายจีนเหล่านี้ไม่ใส่ใจมากนัก เพราะเป็นเงินเพียงเล็กน้อย

ส่วนปฏิกิริยาของคนจีนที่มีต่อเรื่องนี้เป็นไปในหลายด้านด้วยกัน แต่ด้านที่ดูเหมือนจะถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือ มีการเกิดโกธรแค้นขึ้น โดยเฉพาะกับคนที่ไม่เคยสนทนากับชาวต่างชาติมาก่อนเลยตลอดชีวิต คนพวกนี้ก็จะแอนตี้และจงเกลียดจงชังมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อได้รับรู้เรื่องราวของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ถือวีซ่าหมดอายุและไปพยายามข่มขืนหญิงสาวรายหนึ่งในย่านกลางเมือง และนักเล่นเซลโล่ของวงเบจิง ซิมโฟนี ออร์เครสตรา ชาวรัสเซียที่พยายามลวนลามหญิงสาวรายหนึ่งบนรถไฟ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเริ่มมาตรการกวาดล้าง "ซานเฟย" ที่กำลังดำเนินอยู่นี้ด้วยนั่นเอง ยิ่งทำให้ชาวเมืองบางส่วนเกิดอคติต่อชาวต่างชาติมากขึ้น

และปฏิกิริยานี้เกิดขึ้นกับชาวต่างชาติบางคนที่ถูกคุกคามทางสายตา กิริยา และถ้อยคำหยาบคายจากชาวเมือง ซึ่งบางครั้งก็ถึงกับเสี่ยงต่อการมีเรื่องทะเลาะวิวาทด้วยซ้ำ

ปฏิกิยาที่ดูเหมือนจะรุนแรงและเป็นการไม่คิดให้ดีก่อนกระทำของสื่อมวลชนซึ่งเป็นพิธีกรรายการภาคภาษาอังกฤษของซีซีทีวีชื่อ "หยาง รุ่ย" ดูเหมือนจะได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด เพราะเขาระบุในเว็บไซต์ส่วนตัวของตัวเองว่า "สนับสนุนการกวาดล้าง "ขยะชาวต่างชาติ" ที่กระทำผิดกฎหมาย เป็นสายลับ และพวกว่างงานให้สิ้นซาก" ซึ่งถ้อยคำของเขารุนแรงเกินไป ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจต่อหมู่ชาวต่างชาติจากคำเรียกโดยรวมของเขา และชาวจีนเองก็ไม่พอใจที่คนดังอย่างเขาให้ถ้อยคำปแบบสิ้นคิดเหมารวมเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความคิดที่ตื้นเขินของสื่อมวลชน และยังเป็นการทำให้นโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปของทางการกรุงปักกิ่งดูรุนแรงเกินจริง อีกทั้งยังทำให้เกิดกระแสสังคมที่ไม่สงบขึ้น เพราะถ้อยคำของเขาค่อนข้างไปในทางปลุกปั่นให้เกิดความไม่พอใจให้กระพือยิ่งขึ้น

ซึ่งภายหลังจากนั้น แม้เขาจะออกมาขออภัยที่โพสต์ข้อความในลักษณะนี้ ซึ่งไม่ถูกต้องตามจรรยาบรรณของสื่อมวลชน แต่ก็ดูเหมือนความผิดครั้งนี้จะไม่ได้ถูกให้อภัยง่ายๆ สำหรับคนที่เสพสื่อเป็นในประเทศจีน

บางครั้งคนที่มีหน้ามีตาในสังคม คนที่เป็นกระบอกเสียงของคนจำนวนมาก ก็ลืมตัวไปว่า เรื่องส่วนตัว ความคิดเห็นลอยๆ สะเปะสะปะในหัวของตัวเองก็ไม่ควรปล่อยให้ออกมาผ่านสื่ออย่างหุนหันหลันแล่น โดยเฉพาะในสื่ออินเตอร์เน็ตที่สามารถลุกลามเป็นไวได้ในพริบตา

หลังจากทางการกรุงปักกิ่งเห็นว่านโยบายนี้ก่อให้เกิดกระสังคมที่รุนแรงมากขึ้น จึงออกมาแถลงรายละเอียดของมาตรการ "ซานเฟย" นี้ พร้อมทั้งมีการอนุโลมเพิ่มมากขึ้น ด้วยตระหนักว่าชาวต่างชาติที่ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและสร้างคุณูปการสำคัญให้กับประเทศจีนก็มีจำนวนมากเช่นกัน โดยเฉพาะคนต่างชาติที่สังกัดกองวิเทศสัมพันธ์ของประเทศจีน ซึ่งเป็นเหสมือแรงงานสำคัญในการสร้างชาติจีน และนักเรียนนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาสร้างรายได้ให้กับประเทศจีน การที่ต้องได้รับความไม่สะดวกจากมาตรการนี้จึงเป็นเรื่องทที่ต้องคิดและห่วงใยมากขึ้น โดยเฉพาะความรู้สึกปลอดภัยขณะดำรงชีวิตอยู่ในประเทศนี้ จึงเน้นให้มีการประชาสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น จัดให้มีหน่วยงานลงทะเบียนการพำนักอาศัยที่สะดวกยิ่งขึ้น ผลักดันให้บริษัทรับจัดหาบ้านมีความรับผิดชอบในการพาชาวต่างชาติที่มาเช่าอาศัยไปลงทะเบียนที่สถานีตำรวจให้เข้มงวดขึ้น หรือขอความร่วมมือไปยังเจ้าของบ้านเช่าให้ความร่วมมือพาผู้เช่าไปแจ้งด้วยตนเองด้วย

นอกจากนี้ทางการกรุงปักกิ่งยังจะจัดตั้งบูธรับแจ้งการเข้าพำนักอาศัยที่สะดวกยิ่งขึ้น อยู่ใกล้แหล่งชุมชนมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าน่าจะมีถึง 200 แห่งทั่วกรุงปักกิ่งในระยะไม่นานนี้ และจะรับพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษเบื้องต้นให้เพิ่มมากขึ้น และอบรวมพนักงานเดิมให้สามารถสื่อสารง่ายๆ ได้ด้วย

สำหรับสาเหตุที่ต้องมีการอบรมเพิ่ม ก็เพราะว่าพนักงานส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ บางครั้งพบเห็นชาวต่างชาติกระทำผิดกฎหมายก็ไม่ดำเนินการใด กลับปล่อยไป เพราะไม่อยากที่จะยุ่งยากรำคาญในการพูดคุย

กรณีนี้มีชาวต่างชาติรายหนึ่งระบุในเว็บไซต์ส่วนตัวของเขาว่า เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้หยุดรถจักรยานยนต์ และเจ้าตัวก็รู้ดีว่าจะต้องถูกจับแน่นอน เพราะขับรถมาเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่ทว่าพอเขาถอดหมวกกันน็อกออก และเจ้าหน้าที่สองคนพอเห็นหน้าเขาแล้วก็โบกให้ให้ไปได้ โดยไม่ได้รับโทษใดๆ

กับตัวผู้เขียนเองก็เคยเกิดขึ้นหลังจากดำเนินมาตรการ "ซานเฟย" มาได้ไม่นาน เหตุเกิดขึ้นที่สถานีฟู่ชิ่งเหมิน ของรถไฟใต้ดินสายที่ 1 ขณะเดินไปกับเพื่อนชาวไทยที่มีลักษณะการแต่งกายที่เฉพาะตัว นายตำรวจสองคนที่ประจำการอยู่ที่ก่อนทางลงบันไดเพื่อไปต่อกับรถไฟสายที่ 2 ได้เรียกให้เรา 2 คนหยุดเพื่อทำการตรวจสอบ ด้วยความที่เจ้าหน้าที่พูดภาษาจีน ผู้เขียนและเพื่อนฟังไม่ถนัดนัก จึงขยับเข้าไปใกล้และเงี่ยหูฟัง และถามอีกครั้งเป็นภาษาอังกฤษว่าพูดอะไร ตำรวจทั้งสองนายจึงไม่พูดอะไรต่อ นอกจากโบกมือให้เราไปต่อ

นี่คือจุดอ่อนหนึ่งของการจัดการกับชาวต่างชาติแบบ "ซานเฟย" หรือคนที่กระทำผิดกฎหมายของจีน เพราะหากพบคนที่กระทำผิดจริงก็ไม่สามารถที่จะจับกุมหรือตรวจสอบอะไรได้ เพราะเจ้าหน้าที่มีความบกพร่องเรื่องความสามารถในการสื่อสารและขาดความกล้า อีกทั้งยังไม่ยากยุ่งยากด้วย

เรื่องนี้ใช่ว่าทางการกรุงปักกิ่งจะไม่ระแคะระคาย จึงพยายามที่จะสรรหาบุคลากรที่มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อเข้ามาจัดการเรื่องนี้ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากเป็นการทำให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันดียิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการรอบคอบในการตรวจสอบมากขึ้น ทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการจัดการกับแรงงานผิดกฎหมายชาวต่างชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง

และจริงๆ แล้วการจะอยู่ในประเทศจีนในฐานะนักท่องเที่ยวนั้นสามารถทำได้ในระยะยาว แรกทีเดียวเมื่อขอวีซ่าจากประเทศต้นทางของตัวเอง ตามปกติจะได้เพียง 1 เดือน แต่ถ้ามีจดหมายเชิญจากประเทศจีน หรือกรณีพิเศษอื่นๆ อาจจะได้มาที่สุด 3 เดือนนี่คือมาตรฐานตามปกติที่ไม่ใช่วีซ่าประเภท Z ซึ่งเป็นวีซ่าทำงาน ซึ่งมีอายุ 1 ปี แต่สำหรับนักท่องเที่ยวนั้นเมื่อยู่จนครบกำหนดวีซ่าที่ขอมาแล้วนั้น สามารถที่จะยื่นคำร้องขอทำวีซ่าต่อได้ โดยไปยื่นกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละท้องที่ ซึ่งปกติแล้วทางการอาจจะอนุญาตให้อยู่ต่อได้อีก 1 เดือน ถ้ามีหลักฐานการเงินในบัญชีธนาคารเพียงพอที่จะรับรองได้ว่าไม่ต้องการหาเงินเพิ่ม ต้องการแค่ท่องเที่ยวจริงๆ และมีที่อยู่อาศัยชัดเจน มีบุคคลอ้างอิงที่เป็นชาวจีนและสามารถติดต่อได้โดยง่าย

แต่สำหรับคนที่ต้องการเที่ยวหรืออยู่ต่อ แต่ไม่มีบุคคลอ้างอิง หรือไม่มีจดหมายเชิญอะไรที่เป็นทางการ ก็สามารถเดินเข้าไปหาบริษัทที่รับทำวีซ่า ซึ่งหลักฐานที่ต้องการก็คือ บัญชีเงินฝาก เอกสารการแจ้งพำนักที่ชัดเจน และจ่ายค่าเหนื่อยเพิ่มอีกนิดหน่อยก็สามารถได้วีซ่าอีกอย่างง่ายดาย และหน่วยงานหรือบริษัทที่รับทำนี้ก็ระบุอย่างชัดเจนในเว็บไซต์ว่าได้รับการมอบอำนาจหรือถูกต้องตามกฎหมายจีนในการประสานงานขอวีซ่ากับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของจีน

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การได้วีซ่าในเมืองจีนไม่ใช่เรื่องยากแต่ประการใด ดังนั้นจึงมีชาวต่างชาติจำนวนมากฉกฉวยโอกาสนี้เข้ามาหางานทำโดยอาศียวีซ่านักท่องเที่ยว บางคนก็รองานประจำที่สามารถออกวีซ่าทำงานให้ได้ บางคนก็เพียงแค่ต้องการหารายได้ระหว่างเดินทางเท่านั้น

แต่นี่ไม่ใช่ปัญหาที่สำคัญ การลักลอบอยู่ในประเทศจีนแม้จะเป็นปัญหาก็ตาม แต่สำคัญอยู่ที่มีสถิติว่าเกิดเหตุร้ายหรือาญชากรรมที่เกิดจากการกระทำของชาวต่างชาติเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งการที่ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานโดดยอาศัยวีซ่านักท่องเที่ยวเหล่านี้ก็ไม่ได้เสียภาษีรายได้จากการทำงานของตนเข้าสู่ภาครัฐ จึงเป็นเรื่องที่ทางการต้องเข้ามากวดขัน เนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีความเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ทั่วโลกกำลังประสบวิกฤ๖ิทางการเงิน ดังนั้นจึงมีคนหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดเพื่อหาโอกาสการมีงานทำ แต่การนี้ได้ทำให้ระเบียบทางสังคมมีการเปลี่ยนแปลง ทรัพยากรที่ควรเป็นของคนท้องถิ่นที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง กลับต้องไปแบ่งปันกับคนที่ไม่ได้เสีย ภาษี ดังนั้นจึงมีการยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นใหญ่ หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ชาวท้องถิ่นได้รับความเสียหาย

สาวรายหนึ่งอาศัยอยู่ในย่านซานหลี่ถุน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีบอกว่า ปัจจุบันนี้เธอไม่กล้าที่จะออกมาเดินนอกบ้านเวลากลางคืนเลย เพราะเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ ที่คิดว่าผู้หญิงทุกคนที่ยืนหรือเดพินเล่นอยู่ตามถนนเป็นโสเภณีเหมือนกันไปหมด บางคนก็ไม่ได้แค่ลวนลามทางวาจา แต่มือไม้ถึงเลยก็มี ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย

ดังนั้นทางการกรุงปักกิ่งจึงต้องออกมาตรการดังกล่าวนี้ และต้องการที่จะชำระการกระทำผิดกฎหมายเหล่านี้ให้สิ้นซากในเร็ววัน เพื่อความปลอดภัยของสังคม และระเบียบที่ถูกต้อง คนที่เข้ามาทำงานจริงๆ ก็ควรจะได้รับสิทธิ์อย่างถูกต้อง คนที่เข้ามาท่องเที่ยวก็ท่องเที่ยวอย่างที่ใจอยาก เพราะกรุงปักกิ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย คนที่เข้ามาเรียนก็เรียนอย่างมีความสุข หรือจะมุ่งหางานที่ถูกต้องในอนาคตก็ไม่ผิดอะไร เพราะปักกิ่งก็ถือได้ว่ากำลังจะเป็นเมืองสากลแห่งหนึ่งของโลก จึงทำการขอความร่วมมือมายังชาวต่างชาติให้พกเอกสารสำคัญติดตัวเสมอ

นอกจากนี้ในอีก 1 ปีข้างหน้ายังจะพยายามออกวีซ่าให้กับคนที่เข้ามาทำงานสร้างสรรค์ด้วย เช่น นักดนตรี และศิลปินที่ต้องการใช้เวลานานในการทำงานในประเมศจีน

แท้ที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่แทรกเข้ามาในเจตนานี้ กลับเป็นเรื่องที่ไม่ควรให้เกิดขึ้น เจตคติและสำนึกในสังคมการอยู่ร่วมกัน จำเป็นที่จะต้องยอมรับความหลากหลาย ไม่ควรกีดกันและเหมารวมว่า "ชาวต่างชาติทั้งหมดเป็นขยะ" เพราะชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่เมืองจีน ก็ไม่เคยเหมาว่าคนจีนทั้งหมด "ไม่รู้จักความศิวิไลซ์"

ดังนั้นทุกคนจึงต้องเปิดใจให้กว้าง โลกแห่งโลกาภิวัตน์จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องคนทั้งโลกต้องพึ่งพาอาศัยกัน ต้องเดินทางไปมาหาสู่กัน และมีการข้ามวัฒนธรรมอยู่ตลอดเวลา

และสิ่งที่ไม่ถูกต้องใดๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศใดประเทศหนึ่ง ประเทศนั้นก็สามารถที่จะจัดการให้ถูกต้องได้อย่างเต็มสิทธิ์ เช่นการจัดการกับ "ซานเฟย" ของกรุงปักกิ่งในครั้งนี้

พัลลภ สามสี

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
外交
v ตำรวจปักกิ่งดำเนินมาตรการใหม่เพื่อให้บริการแก่ชาวต่างชาติมากขึ้น 2012-05-29 17:04:52
v ปักกิ่งเริ่มตรวจสอบชาวต่างชาติที่ผิดกฎหมายจีน โดยใช้วิธีการที่นุ่มนวลกว่าต่างประเทศ 2012-05-18 19:20:42
v ปักกิ่งเริ่มตรวจสอบชาวต่างชาติที่ผิดกฎหมายจีน โดยใช้วิธีการที่นุ่มนวลกว่าต่างประเทศ 2012-05-18 19:19:54
v จีนปริทรรศน์: ปักกิ่งจะกวาดล้างชาวต่างชาติ "สามผิด" 2012-05-16 15:24:57
v ปักกิ่งจะจัดการกับชาวต่างชาติที่เข้าดินแดนจีนอย่างผิดกฎหมาย พำนักอยู่ในจีนอย่างผิดกฎหมาย และทำงานในจีนอย่างผิดกฎหมาย 2012-05-15 13:38:35
v จีนกำลังเร่งออกนโยบายให้สิทธิพิเศษแก่คนต่างด้าวพำนักในจีนเป็นการถาวร 2012-04-26 16:02:22
v รัฐบาลจีนระบุ จะผ่อนคลายเงื่อนไขในการมอบกรีนการ์ดให้กับชาวต่างชาติ 2012-04-25 17:08:53
v จีนยกย่องมิตรต่างชาติที่สร้างคุณงามความดีแก่จีน 11 คน 2011-10-31 11:21:37
v ต่างชาติสรุปเอกลักษณ์คนจีน 40 ประการ 2011-09-09 14:53:56
泰国
v จีนปริทรรศน์: ศิลปะสมัยใหม่กำลังงอกงามในจีน 2012-05-23 16:04:24
v จีนปริทรรศน์: ปักกิ่งจะกวาดล้างชาวต่างชาติ "สามผิด" 2012-05-16 15:24:57
v จีนปริทรรศน์: สำนักพิมพ์จีนเฮ รัฐออกทุนหนุนโฆษณา 2012-05-09 16:09:13
v จีนปริทรรศน์: สองนักแปลจีนคว้ารางวัลสุรินทราชา 2012-05-02 15:35:13
v จีนปริทรรศน์: ติดตามภารกิจสานสัมพันธ์ไทย-จีน ของประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีน 2012-04-25 17:49:58
v จีนปริทรรศน์: สงกรานต์สถานทูตลาว 2012-04-18 15:56:30
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040