รสนิยมของคนที่ชอบเที่ยวกลางคืนอาจจะไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะชอบไปนั่งดื่มเคล้าบรรยากาศชิวๆ สนทนากันกระหนุ๋งกระหนิง บางคน โดยเฉพาะวัยรุ่นอาจจะเมินหน้าหนีกับบาร์อืดเนือยแบบนี้ เพราะหัวใจของพวกเขาคึกคักไปด้วยเสียงดนตรี จึงเลือกที่จะไปดิสโก้เธคหรือผับแดนซ์ที่มีอยู่เกลือนทุกมุมเมือง หรือให้สุขนสมใจหน่อยก็เลือกที่จะไปคาราโอเกะ เพราะนอกจากจะได้เต้นสุดเหวี่ยงแล้ว ยังได้แหกปากร้องเพลงเสียงดังเท่าไรก็ได้ โดยไม่มีใครมาเคาะประตูว่า แต่สำหรับนักฟังเพลงแล้ว การได้เสพสัมผัสดนตรีสดๆ ที่มีเครื่องดื่มรสกลมกล่อมเติมบรรยากาศให้อวลไอความสนุกสานแล้วล่ะก็ ย่อมเป็นทางเลือกที่แสนวิเศษของคืนวันหยุดพักผ่อน หลังจากเมื่อล้าจากการทำงาน
ในกรุงปักกิ่งอุดมไปด้วยบาร์เด็ดดวง ที่เล่นดนตรีสดได้เด็ดสะระตี่ และมีหลากหลายแนวให้เลือกฟังตามใจปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นร็อก พังค์ร็อก แจ๊ซ บูลส์ ฟามิงโก้ อัลเอตร์เนทีฟ โฟล์กร็อก ฟังก์ พังก์ หรือการาซร็อก ซึ่งแต่ละแห่งหนก็จะมีแฟนขาประจำมานั่งชุมนุมกันตามสไตล์ใครสไตล์มัน
สำหรับสถานที่ตั้งของบาร์เหล่านี้ก็หนีไม่พ้นแหล่งบันเทิงกลางเมืองทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นซานหลี่ถุน อู่เต้าโขว่ กู่โหลว โดยเฉพาะย่านหลังสุดนี้มีบาร์ผุดขึ้นแต่ละปีไม่ว่างเว้น และแน่นอนว่าก็มีบางบาร์ที่ลาโรง โบกมือหนีลูกค้าไป เพราะทนการแข่งขันที่สูงไม่ไหว ดังนั้นบาร์ที่ยังคงอยู่ทุกวันนี้ โดยเฉพาะที่เปิดมาได้เกิน 3 ปี ย่อมเป็นเครื่องยืนยันถึงความนิยม มาตรฐาน การบริการ คุณภาพของดนตรีที่คัดสรรมาลง และแน่นอนว่าราคาก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นที่พอใจของลูกค้า ทำให้รักกันเหนียวแน่นจนผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนถึงทุกวันนี้
ดังนั้นวันนี้เรามาดูกันสิว่า "10 บาร์เด็ดดนตรีสด" ในกรุงปักกิ่งที่ผมในฐานะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มา 4 ปีเศษ และตระเวนท่องไปทุกย่านทุกร้านมาหลายพันราตรีลงความเห็นว่าที่ไหนคงกระพันและเด็ดพอจะแนะนำให้ผู้ที่กำลังวางแผนจะมาเที่ยวกรุงปักกิ่ง และรักการฟังดนตรีสดที่แปลกใหม่มาเปิดหูด้วยตนเองได้บ้าง
Mao Lives House
1. Mao Lives House
อันดับหนึ่งคงต้องยกให้ที่นี่ เพราะมีวงชั้นนำของจีนสับเปลี่ยนกันมาทำการแสดงไม่เคยขาด โดยมีวงแนวร็อกแอนด์โรลเป็นพระเอกหลักของที่นี่
"เหมา ไลฟ์ เฮ้าส์" ตั้งอยู่ที่ถนน "กู่ โหลว ตง ต้า เจีย" เยื้องกับ "หนานหลูกู่เซี่ยง" ถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงปักกิ่ง จุดสังเกตง่ายๆ คือด้านหน้าของบาร์ที่เป็นกำแพงเหล็กสีสนิม และบานกระจกขนาดใหญ่ที่มองเห็นชุดเก้าอี้รับแขกสำหรับคนที่มรอเพื่อน มองจากตรงนี้จะไม่เห็นพื้นที่แสดงคอนเสิร์ตแต่อย่างใด มีเพียงกลุ่มคนที่นั่งรอหรือยืนอออยู่เต็มไปหมดในวันที่มีคอนเสิร์ตใหญ่ และพนักงานเก็บบัตรผ่านประตู
แน่นอนว่าที่นี่จะต้องเสียค่าเข้า ไม่เว้นวันใดวันหนึ่ง สนนราคาโดยทั่วไปตกอยู่ที่ 50 หยวน(แลกดริ๊งไม่ได้) เมื่อผ่านด่านเก็บค่าบัตรผ่านประตูไปแล้วจะมีเค้าท์เตอร์สำหรับสั่งเครื่องดิ่มนานาชนิด ส่วนใหญ่เป็นแบบที่ถือดื่มได้ง่ายๆ ไม่มีอะไรที่วิลิศมาหราจำพวกค็อกเทล เพราะอาจจะเสี่ยงในการตกแตกเสียหายและสร้างความอันตรายได้ขณะเต้นกันอย่างเมามัน ดังนั้นที่นี่จึงจำหน่ายเบียร์ขวดเล็กและเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอร์อื่นๆ
ภายในพื้นที่แสดงดนตรีไม่มีโต๊ะให้วางข้าวของและเครื่องดื่ม เพราะสร้างขึ้นมาเพื่อการแสดงดนตรีอย่างแท้จริง มีแถวเก้าอี้ยาวอยู่ด้านตรงข้ามของเวที ซึ่งมีพื้นที่โล่งคั่นกลางไว้สำหรับคอร็อกที่ต้องการออกไปเต้นสะแด่วปล่อยอารมณ์ได้ตามขีดความคลั่งไคล้และสะใจของแต่ละคน จึงไม่แปลกที่คนที่ต้องการสนทนากันและพักเหนื่อยมักจะออกมานั่งกันอยู่ที่ชุดรับแขกด้านหน้า
ด้วยความที่บาร์แห่งนี้จงใจให้เป็นพื้นที่ของดนตรีโดยเฉพาะ จึงออกแบบระบบเสียงได้กระหึ่มโสตสะท้านทรวง ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าคนที่มีโรคหัวใจอ่อนๆ ควรงดเว้นที่จะเดินเข้ามายังสถานที่แห่งนี้
Yu gong yi shan
2. Yu gong yi shan
ใครที่ไม่รู้ภาษาจีนอาจจะจำยากเสียสักหน่อยกับชื่อของบาร์ที่มีดนตรีหลากแนวและสดใหม่อย่าง "ยู่ กง ยี่ ชาน" แต่ชื่อที่ตั้งมานี้มีความหมายอย่างยิ่งกับดนตรีที่เลือกสรรมาแสดง เพราะคำนี้แปลว่า "ลุงโง่ย้ายภูเขา" เป็นสำนวนจีนโบราณ ซึ่งความหมายอธิบายว่า "กระทำในสิ่งที่ใครๆ ก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่หารู้ไม่ว่าหากพยายามอย่างไม่ลดละ วันหนึ่งก็สามารถเป็นจริงขึ้นมาได้"
ดังนั้นการที่ "ยู่ กง ยี่ ชาน" สนับสนุนให้วงดนตรีหน้าใหม่ได้มีเวทีแสดง จึงเป็นเสมือนการกระทำของ "ลุงโง่ย้ายภูเขา" พยายามสรรหาวงที่ดังใน MySpace ซึ่งส่วนใหญ่จะเชิญมาจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ฟินแลนด์ สเปน ฝรั่งเศส หรือญี่ปุ่น และวงที่ดังจากเว็บไซต์ "Duban" ของจีนเอง ซึ่งมีการแชร์เพลงในลํกษณะเดียวกันกับมายสเปซ หรือเชิญวงมืออาชีพที่มาทำการแสดงคอนเสิร์ตในเทศกาลดนตรีต่างๆของกรุงปักกิ่งมาแบ่งปันประสบการณ์กับวงรุ่นใหม่ของจีน ซึ่งบางคืนมีการเปิดเวทีให้แจมมิ่งกันด้วย
ซึ่งจะเห็นได้ว่า เป้าประสงค์ของเจ้าของพื้นที่แห่งนี้เปรียบเสมือนการพยายามขับเคลื่อนแวดวงดนตรีอินดี้ของจีนให้ก้าวไปข้างหน้าตามแต่ที่แรงของตนมี ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป เหมือนกับลุงโง่คนหนึ่งที่นั่งขุดภูเขาอยู่ชั่วนาตาปีจนใครๆ ก็หาว่าโง่เง่า จนวันที่เขาทำสำเร็จนั่นแหละ ทัศนคติที่เคยเหยียดหยามจึงเปลี่ยนมาสรรเสริญเยินยอ ซึ่งความจริงแล้วเราคงไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันนั้นด็ได้ ถ้าเห็นใครที่ตั้งใจจริง เราควรที่จะเดินเข้าไปให้กำลังใจในความตั้งใจจริงของเขาทันที
ซึ่งจะเห็นได้ว่าวงที่ได้มีโอกาสขึ้นเวทีที่ "ยู่ กง ยี่ ชาน" ส่วนใหญ่แล้วจะใส่กันเต็มที่ มีเท่าไรก็อัดกันไม่ยั้ง ดังนั้นเราในฐานะที่ชื่มชมความสามารถของคนทำงานศิลปะ คนที่ฝึกฝนมายาวนาน ก็ควรอย่างยิ่งที่จะไปสนับสนุนและปรบมือให้กำลังใจ
"ยู่ กง ยี่ ชาน" ตั้งอยู่บนถนน "ตี้ อัน เหมิน ต้า เจีย" ไม่ไกลจากถสานีรถไฟจางจื่อจงลู่ ของสายที่ 2 เดินออกมาทางประตูด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือตรงไปไม่เกิน 100 เมตรก็จะพบทางเข้าบาร์เล็กๆ ตั้งอยู่ด้านหลังป้ายรถเมล์ มองจากภายนอกอาจจะไม่รู้ว่าช่องประตูไม้เก่าๆ ที่ดูเหมือนทางเข้าหลังบ้านใครสักคนนั้นจะมีบาร์ขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ภายใน เพราะไม่มีป้ายติดไว้ที่เหนือช่องประตูหรือที่กำแพง มีเพียงป้ายไฟทรงสูงไม่เกิน 1.5 เมตร และกว้างเพียงครึ่งฟุตยืนหง่อนแหง่นจะล้มไม่ล้มแหล่อยู่บนลานอิฐตัวหนอนด้านหน้า แถมตัวอาคารที่ช่องประตูสำหรับคนแคระมุดเข้าออกนี้ยังแปะอยู่กับกำแพงของบ้านโบราณที่สมัยก่อนเคยเป็นวังหรือคฤหาสน์ของขุนนางสมัยโบราณอีกด้วยแล้ว ิย่งมองไม่ออกว่าจะเป็นทางเข้าบาร์ที่ดังที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงปักกิ่งไปได้อย่างไร
เมื่อผ่านตรงนี้ไปแล้ว ก็ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตู แต่จะแพงหรือถูกก็แล้วแต่ขนาดชื่อเสียงของวงที่ทำการแสดงคือนั้น ส่วนใหญ่จะตั้งไว้ที่ 30, 50 หรือ 80 (ไม่รวมดริ๊ง) ถัดไปก็เป็นห้องสำหรับฝากเสื้อกันหนาวหรือกระเป๋า ซึ่งเป็นบริการที่ดีมากในการปลดปล่อยภาระให้สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้อย่างเต็มที่
ส่วนของบาร์นั้นค่อนข้างจะดีกว่า "เหมา ไลฟ์ เฮ้าส์" เพราะมีเค้าท์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ และโต๊ะพร้อมเก้าอี้ให้เลือกนั่งอยู่พอสมควร ก่อนจะไปถึงโซนที่เป็นราวม้านั่งยาวแบบอัฒจรรย์ ลานบันเทิงในการสลัดอวัยะตามดีกรีเสียงดนตรี และเวทีที่ยกพื้นขึ้นไปประมาณ 80 เซนติเมตร
ใครที่ต้องการเสพสัมผัสดนตรีของวงหน้าใหม่ระดับเพชรในตมและวงที่ผ่านการเจียรไนแต่ยังไม่ได้นำไปใส่หัวแหวน สามารถมุ่งมาที่นี่ได้ 7 วันต่อสัปดาห์ 365 วันต่อปี ที่นี่อ้าแขนต้อนรับคนรักเสียงเพลงอย่างอบอุ่นเสมอ
Temple Bar
3. Temple Bar
นี่คือชื่อที่ท่านต้องท่องจำให้ขึ้นใจก่อนแต่งตัวออกจากบ้านหรือโรงแรมเพื่อไปชมดนตรีสดในกรุงปักกิ่ง เพราะเป็นพื้นที่แสดงดนตรีแห่งใหม่ที่กำลังมาแรงแซงหน้าบาร์รุ่นพี่ที่ยืนยงคงกระพันกันมานาน และเพิ่งฉลองอายุ 1 ขวบไปเมื่อเดือนที่ผ่านมานี่เอง
"เทมเพิล" คือชื่อของสถานที่แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ถนน "กู่ โหลว ตง ต้า เจีย" ตรงกันข้าวกับ "เป่า เชา หู ถ้ง" ซึ่งถ้าเดินมาจากทางหอกลองหรือ "กู่ โหลว" ก่อนจะถึง "หนาน หลู กู่ เซี่ยง" ประมาณ 50 เมตรเห็นจะได้ จะพบทางเข้าที่เป็นประตูไม้โบราณแบบจีนที่เรียกว่า "ไป่ฟั่ง" คล้ายประตูทางเข้าวัดอยู่ทางด้านทางขวามือของถนน หรือถ้ามาตรงกับตอนค่ำวันศุกร์-อาทิตย์ ก็จะมีของขายแบกะดินแบบตลาดนัดบ้านเราวางเกลื่อนริมถนนฝั่งที่ตั้งของ "เทมเพิล บาร์" ซึ่งต้องเดินเข้าไปด้านในของประตูโบราณนั้นเล็กน้อย จนถึงตัวอาคารที่มีประตูกระจก ให้เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 ของร้านอินเตอร์เน็ต ท่านก็จะพบกับอัครสถานบันเทิงสำหรับคอเพลงดนตรีสดที่นี่
ท่านที่เป็นนักคลั่งศาสนาแต่ยังนิยมดื่มสุราเมรัย ก็อย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปเมื่อได้ยินชื่อของบาร์ ไม่เช่นนั้นคนเขาจะว่าท่านได้ว่า "มือถือสาก ปากถือศีล" และก็อย่างที่อธิบายไปข้างต้นว่าร้านนี้ตั้งอยู่หลังประตูไม้โบราณที่ดูแล้วยังไงก็น่าจะเป็นประตูทางเข้าวัดนั่นเองจึงได้ชื่อเช่นนี้มา และก็ดูเหมาะเจาะลงตัวและจำง่ายทีเดียว เพราะถนนสายนั้นมีประตูไป่ฟั่งโบราณอยู่เพียงแห่งเดียวตรงที่ตรงนั้นนั่นเอง
"เทมเพิล" เปิดตั้งแต่หัวค่ำยันฟ้าสาง หากวันนั้นเจ้าของร้านเกิดสนุกขึ้นมา และมีดนตรีสดให้ชมตลอดทุกวัน ไม่เว้นหน้าหนาวหรือหน้าร้อน
สำหรับเครื่องดื่มที่นี่มีตั้งแต่รสมือการเขย่าค็อกเทลของบาร์เทนเดอร์หน้าหวาน เบียร์หลากยี่ห้อจากทั่วโลก รวมถึงเบียร์สดของจีนและต่างประเทศ และขาดไม่ได้สำหรับคนคอแข็งทั้งหลายหากต้องการดื่มวิสกี้ เตอกีร่า หรือวอดก้า ส่วนพวกคอแป๊ปก็มีให้เลือกตั้งแต่น้ำส้ม น้ำอัดลม หรือโมจิโต้แบบไร้แอลกอฮอร์ สำหรับราคาต่ำสุดของเครื่องดื่มคือ 20 หยวน
สำหรับคนไทยที่เพิ่งเคยขึ้นเทมเพิลบาร์ครั้งแรก อาจจะตกตื่นกับชุดเก้าอี้ที่ตั้งไว้กลางร้าน ทั้งแบบชุดเล็กนั่งได้ 4 คน และแบบชุดใหญ่ที่นั่งได้ 6-8 คนขึ้นไป เพราะด้วยเนื้อไม้และลักษณะการประกอบขึ้นมาเป็นโต๊ะ เก้าอี้ และม้านั่งนั้น ไม่ต่างจากร้านหมูกระทะบ้านเราเท่าไรนัก แต่หากพิจารณาว่าที่นี่คือ ปักกิ่ง ก็จะให้บรรยากาศที่แปลกไปมากกว่าเดิม และสำหรับคนที่มาเดี่ยวก็มีสตูลที่หน้าบาร์หรือริมราวบันได้ให้ได้เลือกนั่งแบบส่วนตัว ส่วนกลุ่มเพื่อนที่มากันคณะใหญ่ๆ ที่นี่ก็มีชุดโซาที่นุ่มก้นแสนสบายให้เลือกนั่งทั้งในโซนของบาร์และในห้องรับรอง
แน่นอนว่าในพื้นที่กว่า 100 ตารางเมตรของร้านนั้น ส่วนหนึ่งต้องจัดสรรไว้เป็นพื้นที่โล่งหน้าเวทีสำหรับให้คนที่ดื่มได้ดีกรีแล้วออกไปโยกย้ายไล่ความมึนเมา
จำชื่อร้านไว้นะครับ "เทมเพิล บาร์" ขอบอกว่าร้านนี้วงเด็ดๆ ของปักกิ่ง และวงนานาชาติเคยขึ้นมาแล้วทั้งนั้น และเนื่องจากเจ้าของร้านเป็นคนฝรั่งเศส จึงมีวงจากเมืองนโปเลียนแวะเวียนมาบรรเลงความสะเด็ดสะเด่าอยู่เสมอ ทั้งสไตล์แจ๊ซอาวองการ์ด วงฟังกี้แบบดิ้นกระจายตลอด 2 ชั่วโมง อย่าง "รานี แอนด์ เดอะ ไรต์ เทิร์น" ก็เคยมาเยือนที่นี่แล้ว
นอกจากนี้วงฮิตติดอันดับทุกบาร์อย่าง "เบจิง ยีตเทิลส์" ก็วนมาเล่นเป็นประจำ รวมถึงวงพังก์ทรีโอที่เล่ม 3 ชิ้น ลักษณะคล้ายแนวเพลงของวง "Stray Cats" ที่เป็นวงร็อกแอนด์โรคในยุค 80 แต่คงกลิ่นอายดนตรีแบบ 60 ไว้อย่างลงตัว
พัลลภ สามสี