พัฒนาอย่างสันติ พัฒนาอย่าง เปิดกว้าง พัฒนาแบบร่วมมือกัน

             การจะมองการพัฒนาของจีนอย่างไรภายใต้เงื่อนไขแห่ง
ยุคสมัยที่สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งนั้น         ประ-
ธานาธิบดีหู จิ่นเทา แห่งประเทศจีนเน้นย้ำหลายครั้งว่า “หนทาง
ที่จีนเลือกสรรและยืนหยัดคือหนทางพัฒนาอย่างสันติ           การ
พัฒนาของจีนเป็นการพัฒนาอย่างสันติ         การพัฒนาอย่างเปิด
กว้างและการพัฒนาแบบร่วมมือกัน”    “การยืนหยัดเดินหนทาง
การพัฒนาอย่างสันติ         ก็คือทั้งการพัฒนาตนเองโดยผ่านการ
ช่วงชิงบรรยากาศระหว่างประเทศที่สันติ   และส่งเสริมสันติภาพ
ของโลกโดยผ่านการพัฒนาของตนเอง              ซึ่งจะเป็นพลังที่
แน่วแน่ในการผดุงสันติภาพของโลกและส่งเสริมการพัฒนา
ร่วมกันตลอดไป”   ทั้งนี้เป็นการสรุปอย่างลึกล้ำต่อหนทางการ
พัฒนาของจีน       และเป็นคำมั่นสัญญาอย่างจริงจังของจีนที่มี
ต่อประชาคมโลกด้วย
        การพัฒนาอย่างสันติของจีนมีหลักฐานทางสภาวการณ์ของ
ประเทศ หลักฐานทางวัฒนธรรม       ประวัติศาสตร์ที่สืบทอดกัน
มาและหลักฐานทางพื้นฐานสังคมปัจจุบันอย่างเต็มเปี่ยม   หาก
จีนจะเจริญขึ้นอย่างจริงจัง ก็ต้องผ่านการบากบั่นต่อสู้อย่างยาก
ลำบากเป็นเวลายาวนาน    จึงต้องการสันติภาพอย่างยิ่ง แต่ไหน
แต่ไรมา   ประชาชาติจีนมีค่านิยมที่ยึดถือความปรองดองเป็นสิ่ง
ล้ำค่า จึงทะนุถนอมสันติภาพอย่างยิ่ง   การพัฒนาของจีนมีวัตถุ-
ประสงค์เพื่อให้ประเทศชาติมีความมั่งคั่ง   เข้มแข็ง   ประชาชน
มีความผาสุก     รวมทั้งการผดุงสันติภาพของโลก   ส่งเสริมการ
พัฒนาร่วมกัน   อันเป็นผลดีต่อสันติภาพ        ซึ่งแนวปฏิบัติและ
ประสิทธิผลในการพัฒนาของจีนยุคปัจจุบันได้แสดงให้เห็นถึง
ประเด็นนี้อย่างสมบูรณ์
           การพัฒนาอย่างเปิดกว้างแตกต่างกับการพัฒนาแบบปิด
กั้นอย่างสิ้นเชิง      การสร้างสรรค์ความทันสมัยของจีนเป็นการ
ดำเนินงานภายใต้ภูมิหลังแห่งยุคสมัยเปิดประเทศและสภาพ-
แวดล้อมของโลก ทิศทางและเป้าหมายของการเปิดประเทศตั้ง
ขึ้นบนพื้นฐานของการสรุปประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์อย่าง
ลึกซึ้ง โดยสอดคล้องกับกระแสนิยมแห่งแนวโน้มของเศรษฐกิจ
ยุคโลกาภิวัฒน์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องและความก้าวหน้าทาง
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี   ซึ่งได้กลายเป็นนโยบายพื้นฐานประ-
การหนึ่งของประเทศจีนที่จะไม่เปลี่ยนแปลงต่อไป    การพัฒนา
ประเทศต่าง ๆ ในโลก เพิ่มพูนความเข้าใจซึ่งกันและกัน อันเป็น
การเพิ่มบรรยากาศระหว่างประเทศที่ดียิ่งขึ้น     เพื่อจะได้อาศัย
โอกาสที่เหมาะสม เร่งรัดพัฒนา      เอื้อประโยชน์ต่อประชาชน

จีนและประชาชนทั่วโลกในการร่วมกันรับมือกับความท้าทาย
ต่าง ๆ ที่สังคมมนุษย์กำลังเผชิญอยู่     ร่วมกันผลักดันกิจการ
อันสูงส่งด้านการพัฒนาและสันติภาพของมนุษยชาติ
                   การพัฒนาแบบร่วมมือกัน แตกต่างกับการพัฒนา
แบบเห็นแก่ตัวอย่างสิ้นเชิง     ประเทศจีนเป็นประเทศใหญ่ที่
กำลังพัฒนา จำเป็นต้องตั้งจุดยืนการพัฒนาบนพื้นฐานของการ
พึ่งพากำลังของตนเอง     แต่ในขณะเดียวกันย่อมหนีไม่พ้นจาก
ความร่วมมือของนานาประเทศ ในโลกปัจจุบันนี้ โชคชะตาของ
มวลมนุษยโลกมีความใกล้ชิดอย่างแนบแน่น   ร่วมทุกข์ร่วมสุข
ด้วยกัน        การพัฒนาของแต่ละประเทศกับการการพัฒนาของ
โลกมีผลกระทบซึ่งกันและกันอย่างไม่สามารถแยกออกจากกันได้
ทั้งหมดนี้ได้กำหนดให้การพัฒนาของประเทศจีนเป็นการพัฒนา
แบบร่วมมือกันและเป็นการพัฒนาที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
กับประเทศต่าง     ๆ ในโลก ประเทศจีนผลักดันการติดต่อทาง
การค้า       เศรษฐกิจกับนานาประเทศและภูมิภาคในโลกอย่าง
แข็งขัน ส่งเสริมการเติบโตและความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจ
โลกอย่างเต็มความสามารถ สร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนจีน
และประชาชนทั่วโลก     การพัฒนาของจีนจะไม่กีดขวางต่อคน
อื่นและไม่คุกคามต่อคนอื่น       มีแต่จะอำนวยประโยชน์ต่อสัน-
ติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของโลก
             การใฝ่หาสันติภาพ ผลักดันการพัฒนา แสวงหาความ
ร่วมมือ เป็นประเด็นหลักของยุคปัจจุบัน และเป็นความมุ่งมั่น
อย่างไม่ลดละของประชาชนจีน การที่ประเทศจีนดำเนินตาม
หนทางพัฒนาอย่างสันติ   พัฒนาอย่างเปิดกว้าง พัฒนาแบบ
ร่วมมือกันอย่างแน่วแน่   มีความหมายที่สำคัญยิ่งต่อประเทศ
จีนและโลก       หนทางการพัฒนานี้ได้แสดงให้เห็นความเป็น
เอกภาพของการพัฒนาของประเทศจีนและการพัฒนาของโลก
และความเป็นเอกฉันท์ในของผลประโยชน์ขั้นมูลฐานของประชาชน
จีนและผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั่วโลกอย่างลึกซึ้ง
การที่ประเทศจีนยืนหยัดดำเนินการตามหนทางพัฒนานี้ ย่อม
ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการแก้ไขปัญหาสันติภาพและการ
พัฒนาซึ่งเป็นประเด็นหลักสองประการของยุคสมัยและการ
สร้างสรรค์โลกสมานฉันท์ที่มีสันติภาพอย่างยั่งยืนและความ
เจริญรุ่งเรืองร่วมกัน      อันจะบันดาลให้ศตวรรษที่ 21 เป็น
“ศตวรรษที่ทุก ๆ คนมีส่วนได้รับประโยชน์จากการพัฒนา”

จีนสร้างกลไกประสานผลประโยชน์
เพื่อส่งเสริมสังคมสมานฉันท์

             กระบวนการสร้างสังคมสมานฉันท์แห่งสังคมนิยม เป็น
กระบวนการจัดการความสัมพันธ์ทางผลประโยชน์ต่าง   ๆ และ
ขจัดปัจจัยที่ไม่ก่อเกิดความสมานฉันท์ อีกทั้งเสริมสร้างสังคม
สมานฉันท์อย่างเหมาะสม การสร้างกลไกประสานผลประโยชน์
ที่สามารถสะท้อนผลประโยชน์ทางสังคมทั่วทุกด้านให้สมดุลกัน
อย่างได้ผลและปรับปรุงตามหลักวิทยาศาสตร์   จะเป็นผลดีต่อ
การจัดการด้านความสัมพันธ์ทางผลประโยชน์ที่สลับซับซ้อน
ได้อย่างเหมาะสม     ปูพื้นฐานให้แก่การสร้างสังคมสมานฉันท์
แห่งสังคมนิยม
          “สร้างกลไกสะท้อนผลประโยชน์ให้สมบูรณ์” โครงสร้าง
และรูปแบบผลประโยชน์ทางสังคมของจีนเกิดการเปลี่ยนแปลง
อย่างมาก พร้อม ๆ       กับการปฏิรูปและการเปิดสู่ภายนอกของ
จีนที่พัฒนาอย่างลุ่มลึก      การสร้างกลไกที่สามารถสะท้อนผล
ประโยชน์ทางสัมคมทั่วทุกด้านให้สมบูรณ์ เป็นทั้งสาระสำคัญ
ในการส่งเสริมให้สังคมก้าวสู่ความก้าวหน้าและอารยธรรมอย่าง
ต่อเนื่อง   และเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างสังคมสมานฉันท์
แห่งสังคมนิยม
  “สร้างกลไกการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างสมดุลให้สมบูรณ์”
การให้มวลชนมีส่วนร่วมแบ่งปันผลสำเร็จแห่งการพัฒนา   เป็น
ความต้องการที่จำเป็นในการสร้างสังคมสมานฉันท์แห่งสังคม
นิยม โดยในการปฏิบัติภาระงานประจำ เจ้าหน้าที่ฝ่ายนำระดับ
ต่าง ๆ ต้องคิดในสิ่งที่มวลชนคิด         ต้องกระตือรือร้นในสิ่งที่
มวลชนเดือดร้อน     ช่วยจัดแจงเรื่องที่มีสาระและเรื่องที่มีประ-
โยชน์แก่มวลชนด้วยความจริงใจ พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วย
แก้ปัญหาความยากลำบากในการดำเนินชีวิตความเป็นอยู่ของ
มวลชน
        “สร้างกลไกปรับปรุงผลประโยชน์ให้สมบูรณ์” การสร้าง
สังคมสมานฉันท์แห่งสังคมนิยม ต้องยืนหยัดให้เมืองกับชนบท
พัฒนาพร้อมกันอย่างมีเอกภาพ     พยายามลดช่องว่างระหว่าง
เมืองกับชนบท   ประกอบเป็นกลไกปรับปรุงผลประโยชน์ทาง
สังคมตามหลักวิทยาศาสตร์   จุดสำคัญของการจัดให้เมืองกับ
ชนบทพัฒนาพร้อมกันอย่างมีเอกภาพในปัจจุบันนี้    ขึ้นอยู่กับ
การปฏิบัติตามแนวทางที่อาศัยอุตสาหกรรม   ส่งเสริมเกษตร-
กรรม และอาศัยเมืองนำพาชนบทอย่างจริงจัง ผลักดันให้การ

คลังสาธารณะโน้มเอียงสู่ชนบท     ให้สิ่งอำนวยความสะดวกขั้น
พื้นฐานขยายสู่ชนบท       ให้ความคุ้มครองทางสังคมครอบคลุม
ไปถึงชนบท ให้อารยธรรมสมัยใหม่กระจายสู่ชนบทอย่างแข็งขัน
เพื่อทุ่มกำลังส่งเสริมการสร้างสรรค์ชนบทใหม่แห่งสังคมนิยม