เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเพลินเพลินนอกเมืองปักกิ่ง 5 วัน เป็นกิจกรรมที่ทางสถานีวิทยุซีอาร์ไอจัดให้คณะผู้สื่อข่าวจีนและต่างประเทศได้ไปดูงานและทำข่าวนอกสถานที่ เพื่อให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้เข้าใจจีนมากขึ้น เพื่อนำข้อมูลที่ได้พบเห็นมาเผยแพร่อย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ การเดินทางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาทีจากสนามบินนานาชาติกรุงปักกิ่งไปยังสนามบินนานาชาติเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียว
หนิงอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ถือว่าเป็นเมืองที่มีครบทุกอย่างในด้านธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นชายหาด มหาสมุทร แม่น้ำ ทะเลสาบ ภูเขาและน้ำพุร้อน ว่ากันง่ายๆ ไปแค่เมืองนี้เมืองเดียวได้เที่ยวครบทุกแบบ
สภาพในเมืองต้าเหลียนเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญของภาค เพราะเป็นที่ตั้งของธนาคารและสาขาของบริษัทต่างประเทศมากมาย ส่วนใหญ่มาจากประเทศญี่ปุ่น เกาหลีและไต้หวัน ถนนหนทางนั้นดูสะอาดตาและเป็นระเบียบดีมาก ส่วนหนึ่งอาจมากจากเป็นเวลาเดียวกับการประชุมเศรษฐกิจโลกหรือดาวอส ฤดูร้อน (14-16 กันยายน) แต่พอได้พูดคุยกับเจ้าภาพก็ได้ความว่า เมืองต้าเหลียนนั้นสะอาดเป็นปกติอยู่แล้วไม่ว่าจะมีเวทีระดับโลกหรือกิจกรรมต่างๆ เพราะก่อนหน้านี้เคยได้รับรางวัล 500 เมืองในโลกที่สะอาดจากสหประชาชาติ ทางการจึงรักษาความสะอาดมาโดยตลอดเพื่อให้สมกับรางวัลที่ได้รับ ถึงแม้เวลาจะผ่านไปเกือบสิบปีแล้วก็ตาม พอมีเวลาว่างระหว่างช่วงบ่าย ผู้เขียนรีบเก็บกระเป๋าและออกมาเดินเพลินเพลินชมเมืองต้าเหลียน ไม่วายที่จะแหงนมองอาคารสูงเหยียดฟ้ามากมายที่ตั้งตระหง่านตลอดถนนเหรินหมินหรือถนนญี่ปุ่น ร้านสินค้าแบรนด์เนมเรียงราย และมีวิดีโอวอลล์ขนาดยักษ์ติดตามอาคารเพื่อโฆษณาสินค้าต่างๆ ซึ่งมีน้อยมากในกรุงเทพฯ ไม่วายที่จะคิดไปถึงระบบความปลอดภัยหากเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติขึ้น แต่คาดว่าทางการคงเตรียมรับมือไว้แล้วอย่างแน่นอน
รูปภาพที่ 1 ย่านธุรกิจตั้งอยู่ใจกลางเมืองต้าเหลียน
เดินมาหยุดตรงสี่แยกรอสัญญาณไฟ และได้พบกับรถรางไฟฟ้าที่ให้บริการขนส่งสาธารณะของเมือง เป็นพาหนะที่ญี่ปุ่นได้หลงเหลือไว้หลังจากยึดเมืองนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีอาคารสไตล์ยุโรปมากมายตั้งล้อมรอบจัตุรัสกลางใจเมือง เป็นสถาปัตยกรรมแบบรัสเซีย ปัจจุบันได้เป็นที่ตั้งสำนักงานของภาครัฐและเอกชน ถือว่า เป็นการอนุรักษ์ตัวอาคารอีกทางหนึ่ง ถือว่า เป็นเมืองมีการจัดการและวางผังเมืองไว้เป็นอย่างดี สังเกตได้จากไม่มีสะพานลอยให้รกหูรกตา หากอยากจะข้ามไปอีกฟากถนน ชาวเมืองจะพากันเดินลอดสะพานใต้ดินที่สร้างไว้แต่อดีตและได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่มีเสาไฟฟ้าห้อยระโยงระยางมีแต่เสาไฟที่ให้ความสว่างในยามค่ำคืนเท่านั้น หากจะถามว่า สายไฟต่างๆ หายไปไหน คำตอบคือ ได้จัดการนำลงใต้ดินทั้งหมด
รูปภาพที่ 2 สถาปัตยกรรมแบบยุโรปและรถรางที่ให้บริการในเมือง
ไม่ว่าสงครามจะเกิดขึ้นกี่ครั้งและที่ไหนก็ตามในโลกนี้ มันมักจะสร้างความเสียหายและสูญเสีย รวมทั้งทำลายจิตใจของผู้คนมาทุกยุคทุกสมัย ให้อภัยและถือเป็นบทเรียนที่ต้องระแวดระวังไม่สงครามเกิดขึ้นอีกไม่ว่าที่ใดก็ตาม ถ้าผู้คนร่วมมือร่วมใจและสร้างความเข้มแข็งด้วยกัน ช่วยกันผ่านวิกฤตเลวร้ายได้ เมืองก็จะสวยสดงดงามอย่างเมืองต้าเหลียนที่สร้างความเพลิดเพลิน เก็บตกพาเพลินในเมืองต้าเหลียนยังไม่จบเพียงสัปดาห์นี้ ผู้เขียนยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจของนโยบายการปรับโฉมใหม่ของเมืองต้าเหลียนให้เป็นเมืองนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน จะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามได้ในสัปดาห์หน้า
สุชารัตน์ สถาพรอานนท์