แถบภาคเหนือของประเทศจีนจะมีถึง 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ(เมย.-พค.) ฤดูร้อน(มิย.-สค.) ฤดูใบไม้ร่วง(กย.-ตค.) และฤดูหนาว(พย.-มีค.ของปีถัดไป) จะเห็นได้ว่า ฤดหนาวนั้นกินระยะเวลายาวนานเกือบ 6 เดือน เพราะฉะนั้นก่อนฤดูหนาว ชาวจีนมักจะออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งมากมายก่อนที่อากาศหนาวจนถึงติดลบจะมาถึง การออกไปชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงท้ายของฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมกลางแจ้งของช่วงนี้เช่นกัน
รูปที่ 1
ในเวลานี้ กรุงปักกิ่งมีอากาศดี เย็นสบาย และงดงามที่สุดในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ประกอบไปด้วยท้องฟ้าสดใสไร้ก้อนเมฆน้อยใหญ่ แสงแดดอบอุ่นและมีสีสันของใบไม้ที่เปลี่ยนสีรอเวลาร่วงหล่นส่งท้ายฤดูใบไม้ร่วงเพื่อต้อนรับฤดูหนาวที่กำลังมาเยือน ต้นไม้ส่วนที่เปลี่ยนสี ส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ชนิดใบต่างๆ ดังนี้ ต้นเมเปิ้ล ต้นแปะก๊วย ต้นพลับ ต้นฮาวธอร์น(มีลักษณะเป็นพุ่ม) ต้นเกาลัด ต้นวอลนัท ต้นโอ๊ค ต้นเบิช ต้นพุทรา
รูปที่ 2
ช่วงเวลาที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีของปักกิ่งนั้นเริ่มตั้งแต่ 10 ตุลาคม-15 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นเวลาที่เหมาะสมกับการออกมาเดินเล่นตามริมทาง สวนสาธารณะหรือออกไปชานเมืองของกรุงปักกิ่งเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีสร้างความรื่นรมย์และสร้างความสบายใจสบายตายิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็น สวนสาธารณะปาต้าชู่ ภูเขาดงไม้หอม สวนสาธารณะตี้ถาน พระราชวังฤดูร้อน ประตูทิศต่างๆ ของกำแพงเมืองจีนตามชานเมือง ภูเขาหลิงชาน ไม่เว้นแต่สวนสาธารณะน้อยใหญ่ตามชุมชนต่างๆ ของกรุงปักกิ่งก็สามารถสัมผัสสีสันความงดงามของช่วงนี้ได้ไม่ต่างกัน
รูปที่ 3
สาเหตุทำให้ใบไม้เปลี่ยนสีนั้นขี้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมหลายอย่างรวมถึงระดับของแสงแดดที่ได้รับ อุณหภูมิของอากาศ ความสมบูรณ์ของดิน ฯลฯ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เพียงแค่เปิดตาเปิดใจสัมผัสความงดงามและมหัศจรรย์ของธรรมชาติรอบตัวที่ราวกับภาพเขียนสีน้ำมันจัดจ้าน เดินอยู่ท่ามกลางลานใบไม้ร่วงที่สีสดใส ได้เห็นความสวยงามอีกมุมหนึ่งที่ธรรมชาติบรรจงแต่งแต้มสีสัน เข้าใจความเปลี่ยนแปลงและหมุนเวียนของธรรมชาติ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน จะทำให้มนุษย์ได้เห็นอีกแง่มุมว่า ความงดงามและสบายใจนั้นไม่ได้มีแค่สีเขียวของใบไม้เพียงสีเดียว หากแต่มีสีอื่นๆ อีกที่สร้างคุณค่าทางใจเช่นกัน
รูปที่ 4
สุชารัตน์ สถาพรอานนท์