จีนปริทรรศน์:ปัญหาลูกแหง่ที่แก้ไม่ตก
  2012-10-24 16:06:06  cri

และสารพันปัญหาก็โผล่มาให้เห็นอย่างชนิดไม่อยากเชื่อหูเมื่อได้ยิน และต้องขยี้ตาเมื่อได้อ่าน เพราะเดี๋ยวนี้ใครคิดอะไร ทำอะไรก็จะเอาสิ่งนั้นมาให้ในอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะในไมโครบล็อกส่วนตัว

เช่นมีน้องใหม่มหาวิทยาลัยศิลปะเสฉวนคนหนึ่งโพสต์ข้อความลงในบล็อกของตัวเอง เนื่องจากทนพฤติกรรมของเพื่อนรว่มห้องไม่ไหวว่า "พ่อแม่เขาส่งถุงเท้าใหม่มาให้เป็นโหลๆ เพื่อให้ใช้แล้วทิ้ง เข้าใจว่าคู่หนึ่งก็แค่ 2-3 หยวน(10-15 บาท) แต่ก็เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุอยู่ดี"

ขณะที่สาวน้อยคนหนึ่งจากมหาวิทยาลัยฉงชิ่งเขียนว่า "หมดสัปดาห์แรกของชีวิตในมหาวิทยาลัยเสียที ฉันจะต้องขนเสื้อผ้าใช้แล้วตั้งกระเป๋าใหญ่กลับไปให้แม่ซักที่บ้าน"

หลังจากลงข้อความไปได้ไม่นานก็มีคนว่าต่อว่าที่ไม่ยอมซักผ้าเอง

เธอให้เหตุผลว่าที่หอพักไม่มีเครื่องซักผ้า (ปกติแล้วนักศึกษาจะต้องซักเสื้อผ้าด้วยมือเอง) แม่ก็เลยบอกให้ขนกลับมาที่บ้าน

เท่านี้ยังไม่พอ...

นักศึกษาสาว "แซ่เหอ" เล่าถึงตัวเธอเองเมื่อครั้งย้ายเข้ามาอยู่ในหอพักนักศึกษาใหม่ๆ ว่า "ฉันอยู่กับพ่อแม่มาตลอด แรกๆ ที่ต้องอยู่ห่างกัน ต้องโทรกลับไปหาพวกท่านทุกวัน เพราะไม่รู้ว่าวันนี้ต้องใส่เสื้อผ้าอะไร" แม้สิ่งที่เธอพูดไปจะทำให้รู้สึกอายๆ บ้าง แต่นี่ก็คือเรื่องจริง เธอเล่าต่อว่า "ปกติแม่จะต้องเอาชุดออกมาวางไว้ให้บนเตียงนอนทุกเช้า ทำให้ไม่เคยต้องคิดเองมาก่อนว่าจะใส่อะไรดี ขนาดว่าเวลาอากาศเริ่มจะเข้าสู่หน้าหนาว แม่ยังโทรมาบอกด้วยว่าให้ใส่เสื้อนอกทับอีกทีก่อนออกไปไหน เพราะอากาศข้างนอกเย็นแล้ว"

และเพื่อนร่วมห้องของเธอเสริมว่า "บางครั้งเธอโทรไปร้องไห้กับแม่ เพราะไม่รู้ว่าวันนี้จะใส่เสื้อผ้าตัวไหนดี"

สำหรับนักศึกษาลูกแหง่ชายก็ยิ่งเป็นปัญหา ด้วยส่วนหนึ่งเพราะค่านิยมเรื่องการมีลูกชายเพื่อสืบสกุลของจีน เลยยิ่งทำให้พวกเขาถูกตามใจรุนแรงมากกว่าเด็กผู้หญิง

หนุ่มคนหนึ่งเล่าถึงเพื่อนร่วมห้องด้วยน้ำเสียงที่น่ารังเกียจว่า "นายคนนี้ไม่เคยไปเติมน้ำร้อนเองเลย เขามาหยิบกระติกของผมไปใช้ตลอด โดยไม่เคยเปิดปากขออนุญาตสักครั้ง และที่น่าขยะแขยงยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาไม่เคยซักผ้าปูที่นอนเลยแม้แต่ครั้งเดียวตลอด 2 ปีที่อยู่ด้วยกัน จนวันหนึ่งเขาหยิบมันไปขยี้น้ำแล้วเอาไปตาก ปรากฏว่าบนผืนผ้ามีรอยตัวของเขาติดอยู่ด้วย"

นอกจากต้องร่วมห้องกับคนอื่นแล้ว นักศึกษามหาวิทยาลัยในจีนหนีไม่พ้นต้องใช้ห้องอาบน้ำร่วมกับคนอื่น ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีผ้าม่านกั้น ไม่มีห้องแยก นอกจากฝักบัวที่เรียงกันในระยะห่างพอให้ยืนอาบโดยไม่เบียดกันนัก

นักศึกษาสาวชื่อว่า "เสี่ยวน่า" บอกว่าเธอรับไม่ได้กับการที่ต้องไปอาบน้ำกับคนอื่นแบบนี้ จึงมักมีปากเสียงกับเพื่อน เมื่อทนไม่ได้จึงนั่งรถออกไปบ้านป้าทุกบ่าย เพื่อชำระล้างร่างกายแล้วค่อยกลับมาเข้าเรียน

ส่วนนักศึกษาชายที่ต้องเรียนวิชาทหารทุกคน ก็หาวิธีหลบเลี่ยงขนาดยอมโกหกว่าปู่ย่าตายายหรือญาติโกโหติกาล่วงลับ เศร้าโศกเสียใจจนไม่สามารถไปเรียนได้

นอกจากนี้ยังมีหนุ่มคนหนึ่งบอกว่า เขากินข้าวจากโรงอาหารไม่ลง เพราะชินกับอาหารดีๆ จากร้านอาหารของครอบครัว เลยต้องออกไปกินข้างนอกทุกวัน และที่บ้านก็ยังเพิ่มเงินส่วนนี้ให้ด้วย

นี่คือพฤติกรรมของเหล่า "ลูกแหง่" ที่ย่ำแย่กับการปรับตัวในการต้องใช้ชีวิตนอกบ้านตามลำพัง

แน่นอนว่าสิ่งนี้เป็นผลมาจากการตามใจอย่างสุดขีดของบรรดาผู้ปกครอง

อย่างกรณีของคุณแม่ชาวเจ้าเจียง ยอมนั่งเครื่องบินนำเอา "หวุนตุ้น" หรือ "เกี๊ยวน้ำ" ไปให้ลูกซึ่งเรียนอยู่ที่ชิงเต่า มณฑลซานตง เพียงเพราะลูกบ่นว่าอยากกินฝีมือของที่บ้าน

เกี๊ยวน้ำชามหนึ่งโดยปกติแล้วราคาไม่เกิน 2-3 หยวน แต่คุณแม่นักตามใจลูกคนนี้บอกว่า เธอลงทุนไปทั้งหมดเท่ากับรายได้เดือนหนึ่งของตัวเองเลยทีเดียว

ส่วนอีกครอบครัวหนึ่งยอมโอนเงินให้ลูกชาย เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินจากปักกิ่งไปเซี่ยงไฮ้ เพียงเพราะแฟนสาวของหนุ่มคนนี้เป็นไข้ และต้องการนำเอายาลดไข้ไปให้

มันน่าไหม...

ในสังคมมหาวิทยาลัย ควรจะเป็นสถานที่สำหรับให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เรียนรู้ชีวิตใหม่ๆ แต่กลับย้อนย่ำกลับไปสู่ความเคยชินเดิมๆ จากการที่พ่อแม่ไม่ยอมปล่อยมือให้พวกเขาเดินเอง เป็นไปได้หรือที่ต้องจูงและอุ้มลูกแหง่เช่นนี้ไปตลอดชีวิต

แต่ผลการวิจัยของสถาบันสตรีแห่งชาติจีนก็มีผลออกมาในด้านที่น่าเป็นห่วงพอสมควร เพราะว่าแม้ลูกแหง่เหล่านี้จะเรียนจบมหาวิทยาลัยมาได้ แต่พ่อแม่ก็ยังไม่ได้หมดภาระหน้าที่แต่ประการใด พวกเขายยังคงตามใจด้วยการช่วยซื้อบ้าน ซื้อรถ คนที่มีลูกชายก็ยังต้องหาเงินไปช่วยขอคู่ครองมาให้ เท่านั้นยังไม่พอ ยังตามมาทำกับข้าว ทำอาหาร และเลี้ยงหลานให้อีก

ผลงานวิจียนี้ยังลงลึกไปถึงว่า ลูกที่ให้พ่อแม่มาช่วยดูแลงานบ้านและเลี้ยงลูก ควรจะให้เงินพ่อแม่ด้วย อ่านข้อมูลนี้แล้วก็เป็นห่วงว่าสุดท้ายพ่อแม่ยุคนี้คงต้องทำงานตลอดชีวิต ขณะที่เมื่อชราลงจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ลูกๆ ของพวกเขาก็คงมาปรนนิบัติไม่ได้ เพราะพวกเขาทำไม่เป็น ขนาดว่าซักถุงเท้าและกางเกงชั้นในของตัวเองก็ยังทำไม่เป็นมาตั้งแต่เด็ก นับประสาอะไรกับการที่ต้องมีครอบครัว มีลูก และเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่ชรา

สิ่งนี้ควรจะเรียกว่า "พ่อแม่รังแกฉัน" เพราะตามใจจนเลยเถิด จนเกิดลูกแหง่ซินโดรมในเยาวชนคนรุ่นใหม่ของจีนมากยิ่งขึ้น

คนที่ใกล้ชิดกับนักศึกษารุ่นใหม่นี้จริงๆ คือ คนดูแลหอพัก ซึ่งให้ข้อมูลว่า "ปีนี้ดูเหมือนจุโกลาหลและวุ่นวายที่สุด ก่อนหน้านี้เด็กที่มาเรียนใหม่ ไม่ต้องมีพ่อแม่และปู่ย่าตายายมาประคบประหงมถึงขนาดนี้"

แม้ "ลูกแหง่" จะไม่ใช่คนหมดทั้งสังคม แต่ก็เป็นผลพวงหนึ่งของนโยบายลูกคนเดียวหรือการวางแผนครอบครัวที่มีมาเกือบครึ่งศตวรรษว่ากำลังส่งผลร้ายจากดินอยู่บนหางหมูมานานให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น

และแน่นอนว่า ความเปลี่ยนแปลงในบุคลิกนี้ย่อมสะท้อนไปสู่สังคมวงกว้างได้อย่างสุดจะคาดเดา หากไม่ได้รับการบรรเทาให้เบาบางลง

พัลลภ สามสี


1 2
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
教育
v ปัญหาลูกแหง่ที่แก้ไม่ตก 2012-10-24 16:06:06
v จีนปริทรรศน์: สารพันต้นตอและการแก้ปัญหารถติด 2012-10-15 16:29:23
v จีนปริทรรศน์:ขยะจากเทศกาล 2012-10-08 15:43:49
v จีนปริทรรศน์: ความฝันไม่มีวันหมดอายุ 2012-10-01 15:37:43
v จีนปริทรรศน์: ชวนตี๋เซี่ย เสน่ห์แห่งเงาอดีตที่ไม่เคยซีดจาง 2012-09-26 16:40:05
v จีนปริทรรศน์: ชะตากรรมเดียวกันของวงการหนังสือประเทศโลกที่ 2 ในการก้าวสู่สากล 2012-09-19 16:43:55
泰国
v ปัญหาลูกแหง่ที่แก้ไม่ตก 2012-10-24 16:06:06
v จีนปริทรรศน์: สารพันต้นตอและการแก้ปัญหารถติด 2012-10-15 16:29:23
v จีนปริทรรศน์:ขยะจากเทศกาล 2012-10-08 15:43:49
v จีนปริทรรศน์: ความฝันไม่มีวันหมดอายุ 2012-10-01 15:37:43
v จีนปริทรรศน์: ชวนตี๋เซี่ย เสน่ห์แห่งเงาอดีตที่ไม่เคยซีดจาง 2012-09-26 16:40:05
v จีนปริทรรศน์: ชะตากรรมเดียวกันของวงการหนังสือประเทศโลกที่ 2 ในการก้าวสู่สากล 2012-09-19 16:43:55
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต

เมืองสีว์โจวของจีนได้รับรางวัลเมืองน่าอยู่อาศัยจากสหประชาชาติ

จีนออกสมุดปกฟ้ารายงานผลประโยชน์ทางศก.ในต่างประเทศปี2017-2018

หยางซาน "ท่าเรืออัตโนมัติ" ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เปิดฉากเทศกาลภาพยนตร์ประเทศองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ครั้งแรกที่เมืองชิงเต่า
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040