มารู้จักโม่เหยียน เจ้าของรางวัล "โนเบลวรรณกรรม" ประจำปี 2012 (3)
  2012-10-26 16:12:28  cri

เมื่อปี 1986 โม่เหยียนเคยกล่าวว่า จะพยายามสร้างแนวคิดของตนเองขึ้นมา สร้างระบบตัวละครแบบเฉพาะของตน และสร้างท่วงทำนองการเขียนที่มีเอกลักษณ์ เวลาผ่านมา 25 ปีแล้ว ปัจจุบัน โม่ เหยียนว่าสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวแล้ว ซึ่งทำให้เขามีทัศนคติที่ประนีประนอมชีวิตมากยิ่งขึ้น เขาคิดว่า ชีวิตก็เป็นกระบวนการอย่างหนึ่งที่ทำให้เราเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้มากมาย ดังนั้น ไม่ควรปิติยินดีหรือเศร้าอกเศร้าใจ เพราะไม่ว่าจะดีใจหรือเศร้าใจ ความจริงมันก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

โม่ เหยียนบอกว่า ถ้ารวมทุกตัวละครในนวนิยายของเขา ที่มีทั้งปู่ย่าตายาย พ่อแม่และญาติมิตร คนดีคนชั่วแล้ว ทั้งหมดนี้สามารถประกอบขึ้นเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ได้เลยทีเดียว แต่ในอนาคต ลู่ทางการเขียนของเขาคงเดินต่อไปลำบากยิ่ง เพราะต้องเดินไปในพื้นที่ที่ไม่ยังไม่มีหนทาง ด้วยเขาพยายามหลีกทางที่เคยเดินมาแล้ว รวมถึงจะตัดขาดกับวิธีการเขียนในอดีต อนาคตข้างหน้าจึงจะเขียนเหมือนเดิมอีกไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก โม่ เหยียนพูดอย่างถ่อมตัวว่า "ต่อไปผมไม่ทราบว่ายังจะสามารถเขียนผลงานที่ตัวเองพอใจและผู้อ่านก็ค่อนข้างพอใจได้อีกไหม มีความเป็นไปได้มากที่จะเขียนไม่ออกแล้ว แต่ไม่แน่ว่า บางทีอาจจะเกิดผลงานดีๆ อีกสักเรื่องหนึ่งก็ได้"

ผลงานดีเด่นของโม่ เหยียน

โม่ เหยียนเป็นคนตรงไปตรงมา กล้าพูด ไม่ถือเนื้อเถือตัว และเป็นคนมีอารมณ์ขัน พูดจาสนุกสนานด้วย มีผู้สื่อข่าวถามว่า เคยคิดจะให้ตัวเองและผลงานเป็นอมตะไหม เขาตอบว่า "ไม่เคยเลย ตรงกันข้าม ผมมักเกิดข้อสงสัยต่อตนเองเสมอว่า ผมคุ้มกับชื่อเสียงที่ได้มาหรือไม่ เมื่อนวนิยานเรื่อง "ข้าวฟ่างสีเพลิง" พิมพ์จำหน่ายครั้งแรก ผมก็คิดเองว่า เรื่องนี้เป็นนวนิยายที่ดีไหม ผมกลายเป็นนักเขียนจริงๆ หรือ ปัจจุบัน บางคนชมผมแบบเกินความจริง ทำให้ผมรู้สึกกลัวมาก ส่วนความเป็นอมตะ ไม่ใช่เรื่องที่แสวงหามาได้ ยิ่งอยากเป็นอมตะ อาจจะกลายเป็นความอื้อฉาว แต่บางทีหากไม่ยึดมั่นในความเป็นอมตะ กลับได้ความเป็นอมตะมาเองจริงๆ"

โม่ เหยียนยอมรับว่า อยากมีผลงานที่เป็นอมตะที่แท้จริง แต่จนถึงปัจจุบัน นวนิยายของเขาทั้งหมดยังห่างจากความเป็นอมตะอีกยาวไกล เขาอยากให้นวนิยายของตนดีเยี่ยมและสมบูรณ์ที่สุด จึงยืนหยัดเขียนนวนิยายมาหลายสิบปี และถือการเขียนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต แต่ถ้าจะเขียนผลงานอมตะ ต้องมีทั้งประสบการณ์ชีวิต มีความสามารถพิเศษ และยังต้องโชคดีด้วย ดังนั้น เขาเห็นว่า ถ้าสาบานว่าจะเขียนผลงานยิ่งใหญ่ แต่อาจจะกลายเป็นงานขยะ แต่บางทีไม่ได้ตั้งใจแสวงหาความเป็นอมตะ กลับได้ผลงานที่ยอดเยี่ยมก็ได้

หลังจากได้รับรางวัลโนเบล โม่ เหยียนบอกว่า เขาให้ความสนใจต่อความเห็นในอินเตอร์เน็ตและไมโครบล็อกมาก ขอบคุณสื่อมวลชนต่าง ๆ และผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวนมากมายที่สนใจผลงานของเขา และมีความเห็นต่างๆ นานาต่อคุณธรรมและบุคลิกภาพของเขาด้วย เขากล่าวว่า "ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา การอภิปรายเกี่ยวกับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมเสมือนกระจกเงาบานหนึ่ง ทำให้ผมส่องเห็นจิตใจของคนได้ สำคัญที่สุดคือ ทำให้ผมมองเห็นตัวเองได้ด้วย" ในอินเตอร์เน็ตมีทั้งการเสียดสีและเหน็บแนมมากมาย เขาบอกว่า "แม้ว่าผมอ่านแล้วไม่สบายใจ แต่คนที่เขียนมาก็มีเหตุผลของเขาเช่นกัน"

โม่ เหยียนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว

1 2
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040