ในบรรณพิภพของแวดวงวรรณกรรมจีนยุคปัจจุบัน ชื่อของนักเขียนหนุ่มหน้าหวานนามว่า "กัว จิ้งหมิง" ย่อมเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเขามีผลงานนวนิยายที่ขายดีติดอันดับสูงสุดมาโดยตลอด อีกทั้งยังเป็นเจ้าของนิตยสารวรรณกรรมที่มีแฟนๆ วัยรุ่นติดตามอ่านจำนวนมาก และทำให้เขากลายเป็นนักเขียนที่มีรายได้ระดับเศรษฐี
"กัว จิ้งหมิง" มีหน้าตาหวานแหววที่ผ่านการผ่าตัดมาหลายครั้งจนไม่มีเค้าเดิม หลายคนก็สงสัยว่านักเขียนหนุ่มคนนี้ต้องรักเพศเดียวกันแน่นอน เพราะนอกจากเรื่องความรักสวยรักงามส่วนตัวแล้ว เนื้อหาในนิยายของเขายังหวานแหววเกินกว่าที่ชายหนุ่มทั่วไปจะเขียนได้ และครองใจนักอ่านหญิงจำนวนมาก
กัว จิ้งหมิง เติบโตขึ้นมาในแวดวงวรรณกรรมด้วยการส่งเรื่องเข้าประกวดรายการเดียวกับ "หัน หัน" หนุ่มหล่อนักเขียนและนักแข่งรถ นั่นก็คือ "การประกวดการเขียนบทความทั่วประเทศ"
ขณะที่ "กัว จิ้งหมิง" เรียนอยู่มัธยมปลาย เขาได้ข่าวเกี่ยวกับการประกวดการเขียนบทความทั่วประเทศ ครั้งที่ 3 จึงใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงเขียนบทความขึ้นมาชิ้นหนึ่ง และส่งเข้าร่วมประกวดด้วยความมั่นใจ
หลังจากนั้น 1 เดือน เขาก็ได้รับข่าวว่าผลงานชิ้นนี้ทะลุเข้าสู่รอบสุดท้าย และในที่สุดได้รางวัลชนะเลิศ
ปีถัดมาเขาส่งบทความเข้าประกวดรายการเดียวกันนี้อีกครั้ง เพื่อตอกย้ำความมั่นใจของตัวเอง ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เพราะเขาสามารถรางวัลดับเบิ้ลแชมป์จากคู่แข่งที่เป็นนักเรียนรุ่นนราวคราวเดียวกันทั้งหมดกว่า 40,000 คน และเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ
แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาดังมากยิ่งขึ้นก็คือ นิยายเล่มแรกในชีวิตของเขาที่ชื่อว่า "เมืองจินตนาการ"
นิยายเรื่องนี้ "กัว จิ้งหมิง" เขียนไว้ตอนเรียนมัธยมปลายปีสุดท้าย ต้นร่างเขียนมือด้วยปากกาเพื่อคลายเครียดเฉยๆ และใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งหมดมีประมาณ 20,000 ตัวอักษร พอเขียนเสร็จแล้วเขาก็ไปทำการบ้านต่อ หลังจากเขาเรียนจบมัธยมแล้วนั่นเอง จึงได้มีโอกาสพิมพ์นวนิยายเรื่องนี้เข้าไว้ในคอมพิวเตอร์ และส่งอีเมลไปให้นิตยสารพิจารณา แต่เนื้อหาที่สั้นและอาจจะไม่ต่อเนื่อง เพราะใช้เวลาเขียนเพียงไม่นาน ทางสำนักพิมพ์เองค่อนข้างชื่นชอบเนื้อเรื่อง จึงขอให้เขาเขียนขยายให้ชัดเจนและยาวยิ่งขึ้น
หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนนวนิยายเล่มแรกในชีวิตของเขาก็สามารถสร้างกระแสความนิยมใหม่ขึ้นมาด้วยยอดพิมพ์ถึง 840,000 เล่มภายในระยะเวลาไม่นาน
หลังจากนั้น "กัว จิ้งหมิง" ก็ถูกจับตามมองในฐานะคลื่นวรรณกรรมลูกใหม่ที่กำลังมาแรง ไม่ว่าบทความ หรือภาพถ่ายใสๆ สวยๆ ในเว็บไซต์ส่วนตัว ก็มีแฟนๆ คอยติดตามอยู่ตลอดเวลา
แต่ในเดือนพฤศจิกายนปี 2003 เขาก็โด่งดังขึ้นไปอีก แต่คราวนี้เป็นเรื่อง "ชื่อเสีย" เพราะเกิดกรณีฟ้องร้องว่าเขาลอกเลียนนวนิยายของคนอื่น และเสียค่าปรับจากครั้งนี้ไปจำนวนมาก
กรณีการลอกเลียนผลงานของผู้อื่นนี้เป็นหนังสือเล่มที่สองของเขา ซึ่งมีชื่อว่า "ดอกไม้ร่วงในความฝัน"พอวางแผงได้ไม่ถึงเดือน ก็มีเว็บไซต์แห่งหนึ่งลงบทความกล่าวหาว่า หนังสือเรื่องใหม่ของ "กัว จิ้งหมิง" นี้ลอกมาจากหนังสือเรื่อง "ภายในและภายนอกวง" ซึ่งต่อมาในปี 2004 ศาลกรุงปักกิ่งตัดสินคดีให้ "กัว จิ้งหมิง" และสำนักพิมพ์จ่ายค่าชดใช้เป็นเงิน 200,000 หยวนรวมถึงให้ประกาศขออภัยในหนังสือพิมพ์ด้วย
หลายคนต่างคาดการณ์ในช่วงนั้นว่ากรณีนี้มีผลต่อ "กัว จิ้งหมิง" อย่างมากในด้านลบและคงกลบกระแสความดังเขาไปอย่างสนิททั้งที่เพิ่งดังได้ไม่นานแน่นอน แต่ทว่าแฟนๆ ของเขาเลือกที่จะมองข้ามเรื่องไปเสียเฉยๆ เพราะคนที่เคยอ่านเล่มที่ "กัว จิ้งหมิง" ลอกมานั้น บอกว่าต่างกันอย่างสิ้นเชิง และงานเรื่อง "ดอกไม้ร่วงในความฝัน" ลึกซึ้งและกินใจกว่ามาก อ่านยังไงก็รู้สึกว่าไม่เหมือนกันเลยสักนิด ทำให้ความนิยมของเขายังคงไม่ตกลงไป
