ทะเบียนสมรส (结婚证เจี๋ยฮุนเจิ้ง) ถือเป็นพยานแห่งรักที่มีผลบังคับรับรองทางกฏหมายรวมถึงทางจิตใจสำหรับคู่สมรสสมรักทั้งหลาย ซึ่งการจดทะเบียนสมรสเพื่อรับรองสิทธิและอำนาจตามกฏหมายของคู่แต่งงานชายหญิงนั้น สังคมจีนให้การยอมรับและถือเป็นข้อปฏิบัติร่วมกันมานับแต่อดีตแล้ว
โดยในตำรา "โจวหลี่ 周礼" ที่บันทึกเกี่ยวกับมารยาทพิธียุคสมัยราชวงศ์โจว (1066-256 ปีก่อนคริสตศักราช) ได้เอ่ยถึงว่า หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับการแต่งงานและออกหนังสือสมรสให้ในยุคนั้น เรียกว่า เหมยซื่อ媒氏 ซึ่งทะเบียนสมรสของจีนในอดีตกับปัจจุบันมีความต่างตรงที่ทะเบียนสมรสในปัจจุบัน คือ หลักฐานที่ออกให้รับรองคู่หญิงชายที่แต่งงานกันแล้ว แต่ในอดีตนั้นถือเป็นหนังสือที่ออกเพื่อยืนยันรับรองการหมั้นหมาย รวมถึงข้อตกลงสัญญาภายหลังการแต่งงานของคนทั้งคู่ โดยเรียกว่า ฮุนซู 婚书นั่นเอง
คนจีนสมัยโบราณให้ความสำคัญกับเรื่องของการแต่งงานมาก มีธรรมเนียมพิธีการที่ซับซ้อนหลายขั้นหลายตอน ซึ่งภายหลังชายหญิงได้รู้จักกันผ่านการแนะนำของพ่อสื่อแม่สื่อทั้งหลายแล้ว หากพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายเห็นดีงามก็เป็นอันว่าจัดการเขียนหนังสือสัญญาตกลงการแต่งงานระหว่างกันขึ้นได้ทันที โดยในบันทึกเรื่องราวความรุ่งเรืองของเมืองหลวงทางตะวันออกแห่งราชวงศ์ซ่งเหนือ "ตงจิงเมิ่งหวาลู่ 东京梦华录" ของผู้เขียน "เมิ่งหยวนเหล่า孟元老" (เขียนในค.ศ.1147 แห่งยุคสมัยซ่งใต้) ได้เอ่ยถึงการแต่งงานไว้ว่า การจะไปขอสาวแต่งงานนั้น ต้องเริ่มด้วยการเขียนหนังสือฉบับร่างขึ้นก่อน
และเมื่อครอบครัวทั้งสองฝ่ายเห็นพร้อมยินยอม ก็ค่อยมาจัดการลงเนื้อความระบุรายละเอียดขึ้นอีกที ซึ่งฉบับลงลึกรายละเอียดในที่นี้ก็คือหนังสือแต่งงานรูปแบบหนึ่งนั่นเอง โดยรายละเอียดที่ระบุในหนังสือสมรสสมัยโบราณ จะยึดรูปแบบที่ว่า รายละเอียดฝ่ายชายอยู่ด้านซ้าย ฝ่ายหญิงอยู่ด้านขวา มีแจ้งชื่อสกุล วันเดือนปีเกิด ภูมิลำเนา รวมถึงระบุนามบรรพบุรุษ 3 รุ่นแจ้งไว้ด้วย (เพื่อกันความใกล้ชิดกันทางสายเลือด) เป็นต้น
นอกจากนี้ในหนังสือรวมเรื่องสั้นนิยายสมัยราชวงศ์หมิง "จิ่งซื่อทงเหยียน警世通言" เรื่องที่ 34 หวังเจียวหลวนไป่เหนียนฉางเหิ้น 王娇鸾百年长恨 แม่สื่อในเรื่องได้กล่าวไว้ว่า "ฮุนซู หนังสือสัญญาหมั้นหมายสมรสนี้ ควรเขียนไว้สี่แผ่น แผ่นหนึ่งไว้เผาบอกกล่าวกับฟ้าดิน อีกแผ่นให้ไว้กับเราผู้พยาน เพื่อเก็บเป็นหลักฐานไว้ยืนยันให้อีกชั้น ส่วนอีกสองแผ่น คือ สำหรับเธอสองคนเก็บไว้คนละแผ่น" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงว่าหนังสือสัญญาสมรสฮุนซูนี้ นับเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่การแต่งงานที่จะมีขึ้นในอนาคตของคนจีนในสมัยโบราณ
"ทะเบียนสมรส" ของคนจีนที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
โดยสมุดปกแดงพุทรา ขนาดพกพากลางภาพ คือ เอกสารทะเบียนสมรสของคนจีนในปัจจุบัน
"ฮุนซู" หนังสือหมั้นหมายแต่งงานของคนจีน ในอดีตมักเขียนด้วยมือบนกระดาษเยื่อไผ่ธรรมดา กระดาษวาดภาพเขียนพู่กันจีนเนื้อดี หรือบนผืนผ้าไหมทอ เป็นต้น ต่อมาภายหลังค.ศ. 1912 ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำหมึกและการพิมพ์ ซึ่งมีรูปแบบและตัวหนังสือที่สวยงามขึ้น โดยก่อนค.ศ. 1949 การแต่งงานยังคงเป็นไปตามธรรมเนียมนิยมแต่โบราณ ที่ไม่ใช่เกิดขึ้นจากการยินยอมของหญิงชายทั้งสอง คือ ต้องผ่านพ่อสื่อแม่สื่อและเป็นไปตามคำสั่งของบิดามารดา ด้วยเหตุนี้ รายละเอียดบนฮุนซูจึงยืดยาว เต็มไปด้วยรายชื่อของผู้เกี่ยวข้องต่างๆ นับแต่ผู้แนะนำ ประธานงานแต่ง สถานที่จัดงาน เป็นต้น แต่ปัจจุบันการแต่งงานเป็นความยินยอมของคนสองคน ฮุนซูในปัจจุบันจึงเหลือเพียงสมุดเล่มเล็กขนาดพกพาเท่านั้น
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณะรัฐประชาชนจีน ทะเบียนสมรสเมื่อปี 1950 เป็นเพียงกระดาษบางๆ ที่มีขนาดใหญ่เหลือเพียงสองฝ่ามือเท่านั้น ด้านบน ที่นอกเหนือจากชื่อสกุลคู่สมรส อายุ ภูมิลำเนา ลายมือชื่อ และนามพยานแล้ว ไม่มีภาพประกอบสวยงามใดๆ ทั้งสิ้น ต่อมาปี 1952 ถึงปลายยุค 70 จึงมีลวดลายภาพประกอบบนใบทะเบียนสมรส ซึ่งจะเป็นในรูปลักษณ์ที่บ่งชี้ถึงความเป็นจีนตามความนิยมเป็นไปในสังคมยุคสมัยนั้นๆ
อาทิ ค.ศ.1952-1959 นอกจากมีนกพิราบขาว ตัวแทนแห่งสันติภาพ ยังมีใช้รวงข้าว ดอกฝ้าย เป็นภาพประกอบสำคัญบนใบทะเบียนสมรส แสดงให้เห็นถึงน้ำหนักความสำคัญอย่างมากของภาคเกษตรกรรมที่มีต่อเศรษฐกิจของชาติในสมัยนั้น ส่วนต้นยุค 60 เป็นภาพดอกเหมย เป็ดแมนดาริน สัญลักษณ์ความศิริมงคลเพื่อการครองรักครองคู่เป็นสามีภรรยากัน พอมาถึงช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม บนใบทะเบียนสมรสก็มีการหยิบยกคำกล่าวของประธานเหมาเจ๋อตงมาเอ่ยเอาไว้ด้วย
จากรูปลักษณ์เหมือนใบประกาศที่ระลึกติดประดับข้างฝา ก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเรื่อยมาจนดูเป็นเอกสารหนังสือที่มีความสำคัญทางกฏหมายมากขึ้น โดยปรับเปลี่ยนให้มีขนาดกะทัดรัดเหมาะแก่การพกพา คล้ายกับเล่มพาสปอร์ตหนังสือเดินทางระหว่างประเทศ โดยได้เปลี่ยนมาใช้ทะเบียนสมรสรูปแบบใหม่นี้นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ปี 2004 เป็นต้นมา สมุดทะเบียนสมรสนี้ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะมีถือเก็บไว้คนละเล่ม ภายในมีรูปถ่ายคู่ของคนทั้งสองบนฉากพื้นสีแดง พร้อมมีตราประทับรับรองการจดทะเบียนสมรสจากหน่วยงานราชการ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงกิจการพลเรือนของจีน
ภาพถ่ายเวดดิ้งสตูดิโอสวยๆและแหวกแนวไม่ซ้ำใครของเฉินเสี่ยวชุน陈小春กับอิงฉ่ายเอ๋อร์应采儿
สองนักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง ที่ตัดสินใจจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์และจัดพิธีฉลองสมรสไปเมื่อปี 2010
ทั้งนี้ การแต่งงานของคนจีนในปัจจุบัน ได้ผนวกความเป็นจีนรวมกับการรับเอาวัฒนธรรมของชาวตะวันตก ทำให้ขั้นตอนความยุ่งยากต่างๆ ถูกตัดทอนไปบ้าง เน้นให้ความสำคัญกับเรื่องการจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสอย่างยิ่งใหญ่ และอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่เพิ่มเข้ามาและถือว่าขาดไม่ได้เลย คือ การถ่ายภาพเวดดิ้งสตูดิโอ ภาพแฟชั่นแต่งงานสวยๆงามๆ เป็นที่ระลึกสำหรับวันสำคัญของทั้งคู่ ซึ่งงานเวดดิ้ง แฟร์ หรือมหกรรมงานแต่งงานที่จีนจะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคมของทุกปี ที่สามหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว โดยจะเป็นการรวมผู้เชี่ยวชาญงานแต่งงานจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งงานเวดดิ้งแฟร์ ปี2012 ที่เพิ่งผ่านไป จัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้(ครั้งที่ 15) ระหว่าง 24-26 กุมภาพันธ์ ที่กว่างโจว (ครั้งที่ 4) 10-11 มีนาคม แต่ส่วนของกรุงปักกิ่ง (ครั้งที่ 22) จะมีขึ้นในวันที่ 25-27 พฤษภาคมนี้
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府