ตัวอย่างของอาหารที่มีความเป็นส่วนผสมระหว่างอีสานและฝรั่งเศสที่โดดเด่นของร้านก็คือ "ไก่ เซส์ บง" ที่ทอดไฟแรงกรอบอร่อย โรยเกลือบนผิวไก่เล็กน้อยก่อนเสริฟมาบนจานสังกะสีรองใบตองเขียวเข้ม และเคียงด้วยไวน์แดงในแก้วทรงสูง ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่ลงตัวอย่างยิ่ง และแน่นอนว่ารสชาติเมื่อได้สัมผัสลิ้นแล้วนั้นยากจะลืมเลือนได้
"ส้มตำเลอปลาแดก" ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของที่นี่ก็เสริฟมาพร้อมกับขนมปังกระเทียม อร่อยเข้ากั๊นเข้ากัน
การตั้งชื่ออาหารก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง เพราะ "เลอ ปลาแดก" จะไม่ใช้ชื่อดาษดื่นสามัญที่บรรจุในพจนานุกรมอาหารอื่น แต่สร้างชื่อของตัวเองขึ้นมา เพราะอาหารแต่ละชนิดก็มีการปรับสูตรจนกลายเป็นลายเซนต์ของร้านไปแล้ว
เมนูง่ายๆ อย่าง "กุ้งฝอยทอดกรอบ" ทางร้านก็เปลี่ยนเป็น "เบบี้ ล็อปสเตอร์" แรกที่เห็นชื่อในเมนู แต่ยังไม่เห็นนหน้าตาก็จินตนาการไม่ออกว่าเป็นเพียงกุ้งฝอยธรรมดา
เมนูที่ทุกคนเห็นแล้วต้องงง ไม่รู้ว่าคืออะไรกันแน่คือ "หนุ่มอุบลกับสาวอุดร" เพราะเป็นการเล่นกับการนำเสนอของทางร้าน ทั้งที่จริงๆ แล้วคือ "หมูยอทอด"
"คือพี่ป๋อมเป็นคนอุบล ส่วนพี่เป็นสาวอุดร เราจึงคิดเมนูนี้ขึ้นมา เพราะคนทั้งสองจังหวัดนี้เถียงกันมายาวนานว่าหมูยอซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดตนเช่นกันนั้น ที่ไหนอร่อยกว่ากัน เราก็เลยเอามาทอดเสริฟพร้อมกันเลย โดยใช้พื้นเพของเราทั้งสองมาตั้งเป็นชื่อในเมนู ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นได้ว่า หมูยอจากทั้งสองถิ่นนี้มีความแตกต่างกันอยู่ เพราะของอุบลนั้นจะไม่มีหนังหมูใสๆ เหมือนของอุดร" พี่น้อยผู้เสกสรรชื่อของเมนูนี้อธิบายถึงที่มาที่ไปและเอกลักษณ์ของเมนูที่ใครก็ต้องสั่งนี้
นอกจากนี้ในหน้าแรกของเมนูประจำร้านยังมีคำแนะนำหรือคู่มือในการสั่งอาหารที่เป็นลูกเล่นเสริมเสน่ห์ของร้านอีกอย่างหนึ่งด้วย ซึ่งระบุไว้ดังนี้ว่า
ส้มตำ คือ ตำมะละกอไม่ใส่ปลาร้า
ตำส้ม คือ ตำมะมะกอใส่ปลาร้า(ต้มสุก)
ส่วนความเผ็ดมี 5 ระดับ คือ
เบบี้ (BABY) ไม่เผ็ด (ไม่ใส่พริก)
อนุบาล พริก 1 เม็ด
ประถม พริก 5 เม็ด
มัธยม พริก 10 เม็ด
มหาวิทยาลัย พริก 1 กำ
ด็อกเตอร์ D.R. เผ็ดนรก
และเน้นว่าร้านนี้ทำอาหารหม้อต่อหม้อ ครกต่อครก จานต่อจาน ที่สำคัญยังห่วงใยสุขภาพของลูกค้าโดยไม่ใส่ผงชูรสแม้แต่สักเกล็ดเดียว
และนี่ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของ "เลอ ปลาแดก"
จริงๆ แล้วหากจะจารไนยให้ละเอียดยังมีเรื่องให้พูดถึงอีกมาก เพราะส่วนที่เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ภายในร้านก็ล้วนถูกคิดและกำหนดขึ้นอย่างพิถีพิถัน
ระหว่างที่นั่งลงแล้วสั่ง "ผัดหมี่บ้านนา" มาเป็นออร์เดิร์ฟ ท่านสามารถปล่อยให้เพื่อนเพลินไปกับการเลือกสรรเมนู แล้วเอาเวานั้นไปเดินเล่นพินิจพิจารณาซอกมุมต่างๆ ของร้านได้อย่างตื่นตา หรือถ้าขี้เกียจลุกเหินเดินไปไหนก็นั่งส่องไปในช่องกระจกใต้โต๊ะที่นั่งก็จะเห็นความตั้งใจเอาอดีตมาตกแต่งร้านได้อย่างกะจะตาตัวเอง พร้อมยังเพริดไปกับเสียงเพลงเสนาะหูจากดีเจที่จัดกันสดๆ ผ่านคลื่นวิทยุชุมชน
ที่ "เลอ ปลาแดก" ให้มากกว่าความอร่อย
ทำไมจะไม่พลาดกันล่ะ
พัลลภ สามสี