"เยือนสหรัฐอเมริกา" (1)
หนังสือ "บันทึกลีลาการทูตของเติ้งเสี่ยวผิง" เขียนโดยจอง เหวิน และ เหวินฟู นักวิจัยจากสำนักวิจัยหนังสือที่มีค่าทางประวัติศาสตร์และสำนักวิจัยประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หน่วยงานในสังกัดคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน หนังสือเล่มนี้บันทึกผลงานด้านการทูต โดยเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญๆ ทางการทูตที่เติ้งเสี่ยวผิงมีส่วนร่วม และการติดต่อไปมาหาสู่กันกับนักการเมืองที่มีชื่อเสียงทั่วโลกของเติ้งเสี่ยวผิง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์ทางด้านการทูต และการเป็นนักวางยุทธศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของเติ้งเสี่ยวผิง
ในรายการวันนี้ เราจะถ่ายทอดสาระจากหนังสือเล่มนี้ ตอนที่ 5 ที่มีชื่อว่า "เยือนสหรัฐอเมริกา" ขอเชิญท่านติดตามรับฟัง
วันที่ 16 ธันวาคมปี 1978 เวลา 10.00 น. ผู้นำจีนประกาศแถลงการร่วมระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตโดยผ่านทางวิทยุและโทรทัศน์จากกรุงปักกิ่ง ขณะที่ผู้นำสหรัฐอเมริกาประกาศแถลงการณ์ร่วมฉบับเดียวกันที่กรุงวอชิงตันในเวลาเดียวกัน วันเดียวกัน นายจิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จีนมีประชากรคิดเป็น 1 ใน 4 ของโลก มีบทบาทสำคัญบนเวทีโลก และนับวันจะมีบทบาทมากขึ้นด้วย
หลังจากนั้นไม่นาน นายเติ้ง เสี่ยวผิง แสดงความยินดีที่จะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯตามคำเชิญของนายจิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 5 มกราคมปี 1979 นายเติ้ง เสี่ยวผิง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสหรัฐฯที่มหาศาลาประชาคมปักกิ่ง เนื่องในโอกาสจีนและสหรัฐฯสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และเขาจะรับเชิญไปเยือนสหรัฐฯ โดยกล่าวว่า การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับสหรัฐฯนั้นทำให้การไปมาหาสู่กันในด้านต่างๆ ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศมีอนาคตอันกว้างไกล ข้าพเจ้าจึงขอถือโอกาสนี้ ฝากความปรารถนาอันดีต่อประชาชนสหรัฐฯผ่านทางพวกท่าน ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสพบกับพวกท่านก่อนที่จะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ
วันที่ 28 มกราคมปี 1979 ตรงกับวันชิวอิดของเทศการตรุษจีน ท่ามกลางบรรยากาศเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่อย่างคึกคักของชาวจีนทั่วประเทศ นายเติ้ง เสี่ยวผิง และคณะเดินทางโดยเครื่องบินพิเศษโบอิ้ง 707 จากกรุงปักกิ่งไปยังสหรัฐฯ เพื่อเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ หลังบินระยะทาง 18,000 กิโลเมตร เครื่องบินลงจอดที่ฐานทัพอากาศแอนดรูวส์ในกรุงวอชิงตัน นายมูนเดล์ รองประธานาธิบดี นายโรเบิร์ต แวนซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และบุคคลจากวงการต่างๆ ในสหรัฐฯรวมประมาณ 400 คนรอต้อนรับนายเติ้ง เสี่ยวผิง และคณะที่ท่าอากาศยานท่ามกลางอากาศหนาวเย็นยะเยือก และหิมะตกหนัก
วันที่ 29 เวลา 10.00น. นายจิมมี คาร์เตอร์ประธานาธิบดีสหรัฐฯจัดพิธีต้อนรับนายเติ้ง เสี่ยวผิง และคณะอย่างสมเกียรติที่หน้าทำเนียบขาว โดยมีการยิงสลุต 19 นัด บรรเลงเพลงชาติของทั้งสองประเทศ และเชิญนายเติ้ง เสี่ยวผิง ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศอีกทั้งยังมีฝูงชนมาโบกธงชาติสหรัฐและธงชาติจีน การต้อนรับอย่างสมเกียรติเกินกว่าตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีนั้นสะท้อนถึงความสำคัญที่สหรัฐฯ มอบให้กับการเยือนของนายเติ้ง เสี่ยวผิงครั้งนี้
นายจิมมี คาร์เตอร์ กล่าวในพิธีต้อนรับว่า ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประชาชนสหรัฐฯ และจีนจะมีโอกาสติดต่อไปมาหาสู่กัน จีนมีคำพังเพยคำหนึ่งว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เป็นเวลานานมาแล้วที่ประชาชนสหรัฐฯและจีนไม่มีโอกาสติต่อไปมาหาสู่กัน แต่สิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งคือ ยุคสมัยเช่นนี้ผ่านพ้นไปแล้ว และจะไม่หวนกลับมาอีก ฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวานเป็นวันตรุษจีน เป็นเทศกาลดั้งเดิมที่สำคัญที่สุดของชาวจีน เท่าที่ข้าพเจ้ารู้ ช่วงเทศกาลตรุษจีน คนในครอบครัวที่เคยมีความขัดแย้งกันจะกลับมาคืนดีกัน และจะอยู่พร้อมหน้ากันอย่างมีความสุข สำหรับประเทศสหรัฐฯและจีน วันนี้ก็เป็นวันเริ่มต้นใหม่แห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
จากนั้น นายเติ้ง เสี่ยวผิง กล่าวตอบว่าขณะนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาอยู่ในจุดเริ่มต้นใหม่แล้ว จีนและสหรัฐอเมริกาต่างเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ การพัฒนาความร่วมมือฉันมิตรระหหว่างสองประเทศย่อมจะเป็นผลดีต่อสันติภาพและเสถียรภาพของโลก