ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลจีนยังมีมาตรการให้ลดและจำกัดการส่งออกสินค้าประเภทใช้พลังงานสิ้นเปลือง สินค้าที่ก่อให้เกิดมลภาวะสูง สินค้าที่เป็นวัตถุดิบและเป็นทรัพยากรธรรมชาติ และด้วยมาตรการนี้จึงส่งผลให้โครงสร้างการส่งออกของจีนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังมีการวางแผนยกระดับกระบวนการทางการค้าต่างประเทศให้สูงยิ่งขึ้น แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนฉบับที่ 12 ระหว่างปี 2011-2015 มีเนื้อหาว่า จะส่งเสริมการปรับปรุงนโยบายการค้าต่างประเทศ เพื่อให้กระบวนการการค้าต่างประเทศดียิ่งขึ้น กล่าวคือไม่เพียงแต่จะส่งเสริมการประกอบการเพื่อการส่งออกเท่านั้น แต่ยังจะสนับสนุนและส่งเสริม ด้านอื่นๆ ด้วย ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ การผลิตชิ้นส่วนประกอบสำคัญ ระบบโลจิสติกส์ และการขยายบทบาทห่วงโซ่มูลค่าเพิ่มของธุรกิจภายในประเทศให้มากขึ้น

ด้านการพัฒนากระบวนการแปรรูปสินค้าเพื่อการส่งออก รัฐบาลจีนส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจภายในประเทศ ด้วยการจัดส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะศึกษาสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลก รวมถึงการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และการสร้างแบรนด์ของตนเอง ทำให้สินค้าจีนไม่ว่าจะเป็นคุณค่าของแบรนด์หรือเกรดสินค้าต่างก็สามารถไปแข่งขันในตลาดโลกได้เป็นอย่างดีทั้งในแง่ของราคาและคุณภาพ

รัฐบาลจีนยังใช้มาตรการลดหย่อนกฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการลงทุน และการประกอบธุรกิจ เพื่อกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศและเพิ่มศักยภาพในการประกอบกิจการของกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของจีน

ปัจจุบันนี้ประเทศจีนมีขั้นตอนในการอนุมัติการลงทุนและการประกอบธุรกิจที่ซับซ้อนและมากเกินความจําเป็น ซึ่งทําให้เกิดความล่าช้า และเป็นการเปิดช่องโหว่ให้เจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนเข้าไปแทรกแซงในกระบวนการประกอบธุรกิจ ทําให้มีความเสี่ยงเกิดปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ทั้งนี้ การลดกฎระเบียบการบริหารงานทางด้านนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดขั้นตอนที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และยังเป็นการสนับสนุนภาคการลงทุนด้วย ทําให้ระบบบริหารราชการมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร และเกิดความโปร่งใสในการปฏิบัติงานมากขึ้น

นักวิเคราะห์เห็นว่า รัฐบาลไม่ควรเป็นผู้กําหนดหลักเกณฑ์ทุกอย่าง บางอย่างควรปล่อยให้กลไกตลาดเป็นผู้กําหนดทิศทางเอง รัฐบาลควรมุ่งเน้นไปในเรื่องของการควบคุมในระดับมหภาค การควบคุมตลาดโดยรวม การบริหารจัดการสังคมและบริการสาธารณะมากกว่าที่จะเข้ามาควบคุมทุกขั้นตอน

เพื่อตอบรับนโยบายดังกล่าว เมื่อเร็วๆ นี้ เมืองเซินเจิ้นของมณฑลกวางตุ้งได้ประกาศใช้กฎข้อบังคับในการจดทะเบียนพาณิชย์ฉบับใหม่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เดือนมีนาคมที่ผ่านมา กฎข้อบังคับใหม่นี้มีขั้นตอนการขออนุมัติน้อยกว่าเดิมมาก ทำให้ผู้ที่ต้องการจดทะเบียนทางพาณิชย์มีความสะดวกมากขึ้น ตามกฎข้อบังคับใหม่นี้ ไม่ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบสถานที่ตั้งของบริษัท ผู้ที่ยื่นขอจดทะเบียนทางพาณิชย์ไม่ต้องแสดงหลักฐานในจำนวนเงินทุน ทำให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ต่างแห่ไปจดทะเบียนเปิดบริษัทที่เมืองเซินเจิ้น เพื่อทำธุรกิจอย่างล้นหลาม

การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบของรัฐบาลในการกำกับดูแลระบบเศรษฐกิจเพื่อสร้างความสะดวกมากขึ้นครั้งนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวจีนที่ใฝ่ฝันอยากมีกิจการเป็นของตนเอง โดยมีผู้จดทะเบียนการค้าที่มีทุนจดทะเบียนต่ำกว่า 30,000 หยวนแล้วกว่า 600 บริษัท การปฏิรูปใหม่ ๆ ครั้งนี้นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้สนใจทำธุรกิจสามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องใช้เงินทุนมากมายนัก ยังเป็นการบ่มเพาะและพัฒนาวิสาหกิจขนาดเล็กให้เติบโตเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้ในอนาคต และ เป็นแรงผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วย

นอกจากมาตรการที่กล่าวมาข้างต้นนี้ รัฐบาลจีนยังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งด้วย ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ จีนได้พัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงอย่างก้าวกระโดด ระบบรถไฟความเร็วสูงที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและครอบคลุมทั่วประเทศนั้นช่วยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจของจีน โดยเฉพาะภาคธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงตลาดในทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือเมืองที่ห่างไกลจากความเจริญได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

นักวิเคระห์ด้านเศรษฐกิจจำนวนหนึ่งแสดงความมั่นใจว่า การพัฒนา เศรษฐกิจจีนอย่างต่อเนื่องและมั่นคงนั้น จะทำให้ประเทศในเอเชีย ตลอดจนทั่วโลกรับประโยชน์จากการนี้ ปัจจุบัน จีนยังคงเป็นประเทศแรกที่ทั้งธนาคารโลกและองค์กรวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจระดับโลกหลายแห่ง มองว่าเป็นประเทศที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับแนวหน้าของโลก เศรษฐกิจจีนจะมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต