ประเด็นในการประชุมสองสภาฯจีนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจากประชาชน (1)
  2014-03-11 13:12:25  cri

ขณะนี้ การประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 12 ครั้ง ที่ 2 กำลังจัดขึ้นที่มหาศาลาประชาคมในกรุงปักกิ่ง โดยเปิดฉากเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา จะจัดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 10 วัน มีตัวแทนจากทั่วประเทศเดินทางมาเข้าร่วมทั้งหมดประมาณ 3,000 คน

หลายวันมานี้ สื่อมวลชน และบุคคลในแวดวงต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศพากันแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายต่อรายงานเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบปีที่ผ่านมา และแนวทางพัฒนาประเทศในอนาคต ซึ่งนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีแถลงต่อที่ประชุม สภาดังกล่าว โดยประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดมี 4 ประการดังนี้ คือ การพัฒนาเศรษฐกิจ การสร้างหลักประกันทางสังคมแก่ประชาชน การทำสงครามกับมลพิษ และการต่อต้านปัญหาคอรัปชั่น

นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง กล่าวว่า จีนจำเป็นต้องเดินหน้าปฏิรูป ส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว แม้จะเผชิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาลจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน สถานการณ์ต่างๆที่จีนต้องประสบในปีนี้มีความซับซ้อน มีปัจจัยทั้งบวกและลบมากมาย นอกจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอนแล้ว การปรับเปลี่ยนนโยบายของบางประเทศ ยังก่อให้เกิดตัวแปรใหม่ๆ ขณะที่เศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่ก็กำลังเผชิญกับความยากลำบาก และความท้าทายต่างๆ

ในส่วนของจีนเอง ปัญหาต่างๆที่ยืดเยื้อมานาน กำลังมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ แต่นายหลี่ เค่อเฉียง มั่นใจว่า จีนมีศักยภาพขยายตัวในระดับปานกลาง หรือแม้กระทั่งระดับสูงในอนาคต เนื่องจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมและเขตเมืองยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่ต่างๆของประเทศมีศักยภาพในการพัฒนาอย่างมาก

ด้านอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ จีนยังคงกำหนดเป้าหมายผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีไว้ที่ 7.5% เท่ากับสองปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืนมากขึ้น

ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคจะให้คงไว้ที่ 3.5% รวมทั้งจะสร้างงานในเมืองอีก 10 ล้านตำแหน่ง ควบคุมอัตราว่างงานในเขตเมืองไม่ให้เกิน 4.6% และจะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน

ด้านนโยบายการคลังและการเงินในปีนี้ จีนจะยังคงดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุกและนโยบายการเงินที่ระมัดระวัง ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 หรือปริมาณเงินตามความหมายกว้างจะขยายตัวประมาณ 13%

นักวิเคราะห์ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศส่วนใหญ่เห็นว่า จากรายงานดังกล่าวพบว่า จีนมีความตั้งใจจริงที่จะปฏิรูปเศรษฐกิจ และปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจอย่างจริงจัง ปัจจุบัน เศรษฐกิจจีนขยายตัวในอัตราประมาณ 7.5% นักเศรษฐศาสตร์หลายๆ คนแสดงความเห็นว่า รัฐบาลจีนต้องสร้างโครงสร้างเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในขณะนี้ ลดการพึ่งพาการส่งออก แล้วหันไปกระตุ้นการบริโภคในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลาง กลไกการตลาดจะมีบทบาทมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจจีน

การปฏิรูปโครงสร้างรัฐวิสาหกิจจีนเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น ต้องให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในรัฐวิสาหกิจได้ กำหนดบทบาทหน้าที่ของผู้บริหารให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้รัฐวิสาหกิจมีความโปร่งใสมากขึ้น

รัฐบาลอาจต้องผ่อนคลาย หรือถอนตัวออกจากการครอบครองธุรกิจบางประเภท แล้วให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องยกเลิกมาตรการบางอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนจากต่างชาติ เพื่อให้รัฐวิสาหกิจจีนมีความสามารถทางการแข่งขันในระดับโลกมากขึ้น สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้าง และวัฒนธรรมองค์กรให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

นักวิเคระห์ส่วนใหญ่ยังชื่นชมทางการจีนที่ได้ออกมาตรการกำกับธุรกิจการเงินนอกระบบธนาคารพาณิชย์ หรือที่เรียกกันว่า "ธนาคารเงา" ที่ประเมินกันว่า อาจมีขนาดใหญ่ถึง 36 ล้านล้านหยวน หรือประมาณร้อยละ 69 ของจีดีพีของจีน ทั้งนี้ มาตรการที่ออกมามีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะให้ทางการจีนสามารถติดตาม ตรวจสอบ และกำกับธุรกรรมทางการเงินดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมา ธุรกรรมนอกระบบธนาคารพาณิชย์ดังกล่าว มักจะมีความไม่ชัดเจน ยากต่อการตรวจสอบ โดยเฉพาะในประเด็นความเสี่ยงต่อเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ที่อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะคนกลางในการจัดทำธุรกรรมการเงินนอกระบบแบงก์ดังกล่าว

เหตุผลที่ธนาคารพาณิชย์เข้าไปจัดธุรกรรมนอกระบบแบงก์ หรือธนาคารเงา ส่วนหนึ่งเพื่อที่จะหลบเลี่ยงการกำกับควบคุมของทางการทั้งด้านการปล่อยสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ยังได้รับประโยชน์ในรูปของค่าธรรมเนียมการจัดการ เช่น การเป็นคนกลางและการค้ำประกัน

นอกจากนี้ ธุรกรรมนอกระบบดังกล่าว บางส่วนไม่ได้บันทึกในบัญชีของธนาคารโดยตรง ทำให้ดูเหมือนว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะความมั่นคงของธนาคารแต่อย่างใด

ธนาคารเงาดังกล่าว มีทั้งฝั่งการปล่อยกู้และการระดมเงินออม โดยในด้านการระดมเงินออมนั้น รูปแบบที่เป็นที่นิยมได้แก่ ผลิตภัณฑ์บริหารความมั่งคั่ง โดยเสนอให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์

ล่าสุด รัฐบาลจีนได้ออกกฎ เพื่อจัดระเบียบใหม่ และกำกับดูแลการระดมเงินออมดังกล่าวให้เข้มงวดมากขึ้น โดยธนาคารพาณิชย์ที่ดำเนินธุรกิจดังกล่าว จะต้องแยกหน่วยงานนี้ออกมาให้ชัดเจน รวมถึงมีมาตรการรองรับการบริหารความเสี่ยงด้วย

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
时政
v ประเด็นในการประชุมสองสภาฯจีนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจากประชาชน (2) 2014-03-11 13:13:16
v เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:สองสภาฟังเสียงประชา 2014-03-11 13:03:34
v มองการประชุมสองสภาจีนผ่านภาพ ชุดที่เก้า"ภาพแอนิเมชั่นของนายสี จิ้นผิงที่เป็นมิตรกับประชาชน" 2014-03-10 17:39:40
v อินทนิล อินไชน่า : มองจีนกับรองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น ผู้อำนวยการศูนย์ยุทธศาสตร์ไทย-จีน สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ 2014-03-10 12:00:39
v ความต่างระหว่างการประชุมสองสภาปี 2014 กับการประชุมสองสภาของปีที่ผ่านมา (2) 2014-03-10 09:41:16
v ความต่างระหว่างการประชุมสองสภาปี 2014 กับการประชุมสองสภาของปีที่ผ่านมา (1) 2014-03-10 09:40:32
社会
v ประเด็นในการประชุมสองสภาฯจีนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจากประชาชน(2) 2014-03-11 13:13:16
v วิถีชีวิตที่ดี เพื่อสุขภาพแข็งแรง (2) 2014-01-14 13:46:46
v วิถีชีวิตที่ดี เพื่อสุขภาพแข็งแรง (1) 2014-01-14 13:45:39
v จีนเร่งเตรียมความพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุ (2) 2013-11-19 16:38:01
v จีนเร่งเตรียมความพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุ (1) 2013-11-19 16:36:30
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040