เมื่อเร็ว ๆนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลการคมนาคมของกรุงปักกิ่งจัดกิจกรรมระดมความคิดเห็นจากประชาชนเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัดในตัวเมือง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ เวยโป๋(ไมโครบล๊อก)ของคณะกรรมการฯ หรือส่งอีเมล์ จดหมายให้คณะกรรมการฯโดยตรง ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการศึกษาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดอย่างหนักที่กรุงปักกิ่งกำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้
ปีหลังๆ นี้ ปักกิ่งพัฒนาเติบโตอย่างรวดเร็ว คนจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศพากันเข้ามาแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ความเป็นเมืองได้ขยายออกไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ปักกิ่งยังจะรับคนได้อีกมากแค่ไหน? ปัจจุบัน หากนับเฉพาะคนที่มีทะเบียนราษฎร์อยู่ในกรุงปักกิ่งจะมีอยู่ราวๆ 21 ล้านคน หากรวมจำนวนคนที่มาอาศัยอยู่ในปักกิ่งโดยไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาด้วย ประชากรในกรุงปักกิ่งมีมากกว่า 21 ล้านคนอย่างแน่นอน ขณะที่รถยนต์ในกรุงปักกิ่งมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 5.4 ล้านคัน ในจำนวนนี้ ที่เป็นรถยนต์ส่วนบุคลมีประมาณ 4 ล้านคัน ทั้งนี้ยังไม่นับรถจากปริมณฑลที่วิ่งเข้าออกเป็นระยะๆ รถเยอาะขนาดนี้ทำให้ปัญหารถติดกลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวของชาวปักกิ่ง ประชาชนหลายรายกล่าวว่า ปัญหาจราจรติดขัดบางครั้งเลวร้ายจนกระทั่งพวกเขาคิดว่าถนนกลายเป็นที่จอดรถไปแล้ว
ผลการสำรวจล่าสุดของคณะกรรมการกำกับดูแลการคมนาคมกรุงปักกิ่งเผยว่า เวลาที่ชาวปักกิ่งใช้ในการเดินทางไปทำงานและกลับบ้านในแต่ละวันเฉลี่ยอยู่ที่ 1.32 ชั่วโมง ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ของประเทศพัฒนา ส่วนการสำรวจผลกระทบด้านจิตใจจากการจราจรที่ติดขัดพบว่า ผู้ให้สัมภาษณ์ 30% เห็นว่าทำให้หงุดหงิดง่าย มีความเครียดเพิ่มขึ้น
การจราจรติดขัดยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศจากควันไอเสียที่มาจากรถยนต์ ยิ่งรถติดนาน ไอเสียก็ยิ่งมากขึ้น ซึ่งกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่น่าห่วงสำหรับผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ๆ
เมื่อต้นปีที่แล้ว กรุงปักกิ่ง และปริมณฑลถูกปกคลุมด้วยหมอกควันอย่างหนักเป็นเวลาหลายวัน ทำให้คนที่ใช้รถใช้ถนนมองเห็นได้ในระยะทางข้างหน้าเพียง 500 เมตรเท่านั้น ส่วนเครื่องบินที่บินเข้าออกกรุงปักกิ่งกว่า 30 เที่ยวบินต้องยกเลิก ขณะที่ทางการกรุงปักกิ่งต้องออกประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองให้ระวังปัญหาหมอกควัน พร้อมทั้งแนะนำประชาชน โดยเฉพาะเด็ก และผู้สูงอายุให้อยู่แต่ในบ้านหรือพื้นที่ปิด เนื่องจากในช่วงนั้น ปัญหามลภาวะทางอากาศมีความรุนแรงมาก
จริงๆ แล้วปัญหาดังกล่าวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในกรุงปักกิ่ง แต่ในตัวเมืองที่มีประชากรอยู่อาศัยมากกว่า 1 ล้านคนอีกหลายเมืองในจีน ล้วนกำลังมีปัญหาเช่นเดียวกันทั้งสิ้น นั่นคือ ปัญหารถติดและเกิดมลภาวะทางอากาศรุนแรงมากในชั่วโมงเร่งด่วนของการจราจร ซึ่งคนส่วนใหญ่เห็นว่า สาเหตุหลักของปัญหาก็คือ มีประชากรและรถมากเกินไป แต่พื้นผิวจราจรมีน้อย
หลายปีที่ผ่านมานี้ กรุงปักกิ่งพยายามแก้ปัญหาการจราจรแออัดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การกำหนดวันห้ามรถแล่นบนถนนตามเลขทะเบียนรถ การกำหนดเพดานการจดทะเบียนรถใหม่ในแตละเดือนโดยผ่านการจับสลาก การเพิ่มค่าธรรมเนียมจอดรถ การสร้างทางคู่ขนาน การเพิ่มความกว้างของสี่แยกบางแห่ง และการขยายระบบรถไฟใต้ดิน ขณะนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลการคมนาคมกรุงปักกิ่งกำลังศึกษาการเก็บค่าธรรมเนียมการจราจรแออัด และจะพัฒนาระบบข้อมูลการจราจรอัจฉริยะที่ทันสมัย กรรมการหลายคนในคณะกรรมการกำกับดูแลการคมนาคมกรุงปักกิ่งแสดงความเห็นว่า การเก็บค่าธรรมเนียมการจราจรแออัดอาจช่วยจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้เปิดเผยว่าค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะมีจำนวนเท่าใด จะมีการจัดเก็บถนนสายใด และจะจัดเก็บด้วยวิธีใด แต่ได้เปิดเผยถึงแผนของกรุงปักกิ่งในการปรับปรุงและสร้างสถานีบริการเติมไฟฟ้ารถยนต์เพิ่มเติม เพื่อหวังกระตุ้นให้ประชาชนซื้อรถยนต์ประหยัดพลังงานรุ่นใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น
