"มณฑลหูหนาน" ชื่อสถานที่ที่ฟังดูห่างไกลไม่คุ้นหูเท่ามณฑลกวางตุ้งหรือยูนนานแห่งนี้ แท้ที่จริงแล้วมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เข้าใกล้เรากว่าที่คิด เพราะที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและแหล่งน้ำ เรียกว่าสำนวนไทย "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" ใช้กับที่นี่ได้อย่างเหมาะเจาะ นอกจากนี้ "เมืองจางเจียเจี้ย" สถานที่ต้นแบบของดาวแพนโดร่าที่สวยงามในภาพยนตร์เรื่อง "อวตาร" ก็ตั้งอยู่ในมณฑลนี้ รวมถึงประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตุงก็เป็นชาวหูหนานโดยกำเนิดด้วย
ชาวหูหนานชอบทานเผ็ด "หมูผัดพริก" กับ "เต้าหู้เหม็น"
สองจานนี้รับรองถูกปากชาวไทยที่ถูกใจกับความแซ่บ
จางเหวินสง หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลหูหนานแนะนำว่า หูหนานแบ่งการปกครองออกเป็น 14 เมือง 122 อำเภอ ตั้งอยู่ช่วงตอนกลางของแม่น้ำแยงซีเกียง มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 210,000 ตารางกิโลเมตร และว่าถ้าดูจากชื่อก็จะทราบได้ว่าเป็นดินแดนที่มีความเกี่ยวพันกับ"น้ำ"เป็นพิเศษ เพราะ คำว่า "หู" หมายถึง ทะเลสาบต้งถิงหู และชื่อย่อที่เรียกว่าว่า "เซียง" ก็เป็นชื่อแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านมณฑล โดยยังมีแม่น้ำจือ หยวน หลี่ อีก 3 สายสำคัญด้วย ปัจจุบันหูหนานจึงได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลาน้ำจืดที่มีชื่อที่สุดในจีน ปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติมีถึงกว่า 160 ชนิด ซึ่งจางเจียเจี้ยถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติบนดินที่สำคัญของหูหนาน ส่วนความงามทางน้ำต้องยกให้ทะเลสาบต้งถิงหู
งานประติมากรรมรูปปั้นประธานเหมาตอนหนุ่มบนเกาะส้ม
(แม้ว่าตอนนั้นจะยังไม่มีไฝ แต่เติมเข้าไปเพื่อความคุ้นตาของคนทั่วไป)
และสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฉางซา เมืองเอกของมณฑล ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและใกล้ชิดกับประชาชนสุดๆ อย่าง "เกาะส้ม(橘子洲)" ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะนอกจากไม่เก็บค่าเข้าแล้ว ยังตั้งอยู่ใจกลางเมืองเดินทางไปได้สะดวก โดยเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดกลางแม่น้ำเซียงเจียง มีพื้นที่รวม 534.64 เฮกตาร์ เกิดขึ้นจากการทับถมของโคลนและทราย ทอดตัวยาวแนวเหนือใต้ ซึ่งในยุคราชวงศ์ถังมีการบันทึกถึงความเลืองชื่อของต้นส้มที่มีมากมายบนเกาะ และได้กลายเป็นที่มาของชื่อเรียก
บรรยากาศที่สดชื่นเย็นสบาย ทำให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว
และชาวเมืองมาเดินเล่นหรือวิ่งออกกำลังกายทั้งในช่วงเช้าและเย็น
โดยเปิดทุกวันตั้งแต่ 6.00-21.30น.
เกาะส้มเริ่มงานก่อสร้างสวนพักผ่อนหย่อนใจและเปิดให้ประชาชนใช้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 1962 แต่มาปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ในเดือนสิงหาคม ปี 2005 ภายใต้แนวคิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ที่มีความเป็นนิเวศวิทยา โดยบนเกาะมีต้นไม้ดอกไม้นานาพันธ์นับพันชนิด แน่นอนว่าต้นส้มมีมากสุดกว่า 1,800 ต้น ซึ่งจุดเที่ยวชมที่ได้รับความสนใจที่สุดบนเกาะเห็นจะหนีไม่พ้น ผลงานประติมากรรมขนาดใหญ่รูปปั้นประธานเหมาทางด้านใต้ของเกาะ มีความสูง 32เมตร ยาว 83 เมตร และกว้าง 41 เมตร โดยเป็นใบหน้าประธานเหมาในวัยหนุ่มตอนอายุ 32 ปี ซึ่งสถานที่แห่งนี้มีความผูกพันกับประธานเหมาไม่น้อย เพราะในช่วงปี 1913-1923 ระหว่างเรียนหนังสือและทำงานอยู่ที่เมืองฉางซา ได้ว่ายน้ำข้ามมายังเกาะส้มกับเพื่อนบ่อยครั้ง และร่วมกันถกถึงอุดมการณ์ที่หวังจะช่วยชาติช่วยประชาชน
มาถึงถิ่นแล้วไม่ลองไม่ได้!
(แม้จะเขียวเหมือนมะนาว แต่กลับไม่เปรี้ยวอย่างที่คิด)
หูหนานกับการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดย วังฟ้า 羅勇府