บรรยากาศคริสต์มาสและปีใหม่แบบสากลเพิ่งผ่านพ้นไปไม่ถึงเดือน ชาวจีนก็ได้ครึกครื้นอีกครั้งเพราะเดือนนี้มีเทศกาลสำคัญที่สุดสำหรับชาวจีนทั้งในแผ่นดินใหญ่และโพ้นทะเล นั่นคือ "ตรุษจีน" ถือเป็นช่วงเริ่มต้นปีใหม่ของจีนตามปฏิทินจันทรคติ ในสมัยก่อนยังถือเป็นการส่งสัญญาณกับเกษตรกรว่าฤดูหนาวกำลังจะผ่านพ้นไปและฤดูใบไม้ผลิกำลังเข้ามา ชาวไร่ชาวนาต้องเตรียมการเพาะปลูกสำหรับฤดูกาลหน้าได้แล้ว แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปทำให้กิจกรรมและพิธีบางอย่างยืดหยุ่นไปบ้าง แต่มีอยู่สิ่งเดียวที่ชาวจีนยังยึดถือปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณีของเทศกาลนี้อย่างเคร่งครัด คือ การกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัวและญาติพี่น้องที่บ้านเกิดเมืองนอน
เนื่องด้วยชาวจีนมีประเพณีต้องกลับบ้านในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้เกิดคลื่นมหาชนชาวจีนจำนวนมหาศาลเพิ่มขึ้นทุกปี ตั้งแต่ปี 2001 การเดินทางของชาวจีนมีจำนวน 1,660 คน จนมาถึงเมื่อปีที่แล้ว(ปี 2011) จำนวนชาวจีนพุ่งขึ้นเป็น 2,200 คน และในปีนี้ ทางรัฐบาลจีนได้ประกาศให้การเดินทางของเทศกาลตรุษจีนเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ รวมทั้งสิ้น 40 วัน จะมีชาวจีนทั้งในประเทศและโพ้นทะเลจำนวนประมาณ 3,158 ล้านคนออกเดินทางโดยใช้บริการพาหนะต่างๆ ทั้งเครื่องบิน รถไฟ รถบัสขนส่งมวลชน รถเช่าต่างๆ จุดหมายปลายทางส่วนใหญ่เป็นการเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมครอบครัวและญาติพี่น้อง อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาข้ามคืนวันสุกดิบส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยกัน
การจำหน่ายตั๋วของพาหนะต่างๆ ได้พัฒนาและปรับปรุงตามยุคสมัยและสนองต่อความต้องการของชาวจีน พาหนะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ รถไฟ ยิ่งนับวันได้รับการพัฒนาทางด้านความเร็วและเพิ่มจำนวนขบวนของรถไฟประเภทต่างๆ เพื่อให้บริการต่อผู้โดยสารทันท่วงที สาเหตุที่รถไฟได้รับความนิยมเพราะปลอดภัยและราคาไม่แพง สำหรับปีนี้ทางการยังให้ความสำคัญทางด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เน้นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารเป็นหลัก เพิ่มมาตรการป้องกันอุบัติเหตุและแผนรับมือภาวะฉุกเฉินต่างๆ ให้ความใส่ใจทางด้านบริการและอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารอย่างเต็มที่ ท้ายที่สุดให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าจะพาทุกคนถึงจุดหมายปลางทางโดยไม่มีผู้โดยสารตกหล่นอย่างแน่นอน