วันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ถือเป็นวันที่สามของช่วงหยุดฉลองวันชาติจีนปีนี้ เว็บไซต์การท่องเที่ยวจีนประกาศรายงานว่า ตลาดการท่องเที่ยวของทั้งประเทศยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและดำเนินไปอย่างมั่นคงดี มีความสงบเรียบร้อยโดยรวมและไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้น ซี่งสถิติของวันที่ 3 นี้ ทั่วประเทศจีนรองรับนักท่องเที่ยวรวม 119 ล้านคน เพิ่มจากปีก่อนร้อยละ 9.8 มีรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศ 98,400 ล้านหยวน โตขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 11.8

นักท่องเที่ยวบริเวณอ่าวย่าหลง เมืองซานย่า มณฑลไห่หนาน เมื่อวันที่ 2 ต.ค.

ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วย ส่วนหนึ่งของกลุ่มที่ออกเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้มีการเดินทางกลับและทบรวมกับการออกเดินทางไปเที่ยวโดยรอบ ทำให้ตัวเลขออกเดินทางของนักท่องเที่ยวยังคงรักษาอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งการเดินทางท่องเที่ยวแบบทั้งครอบครัวก็มีการเพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษด้วย โดยการไปเที่ยวพักผ่อนริมทะเล สวนสนุก และงานกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ที่จัดขึ้นเป็นพิเศษรับเทศกาล ได้รับความชื่นชอบจากกลุ่มนี้มาก รวมถึงการช้อปปิ้ง รับประทานอาหารนอกบ้าน ก็ได้รับการตอบสนองจากผู้คนมากมายเช่นกัน

เทศกาลไหว้พระจันทร์ของทุกปีจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 4 ต.ค. ถือว่ามาช้ากว่าปีก่อนๆ เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ในเดือนกันยายน เช่น ปีที่แล้วตรงกับวันที่ 15 กันยายน ส่วนปี 2015 ตรงกับวันที่ 27 กันยายน ซึ่งจีนมีคำกล่าวว่า "จันทร์วันขึ้น 15 ค่ำจะกลมสมบูรณ์จริงตอน 16 ค่ำ" ซึ่งปีนี้ก็ล่าช้าออกไปอีก คือ พระจันทร์วันไหว้พระจันทร์ปีนี้ จะกลมเต็มดวงโดยสมบูรณ์จริงในเวลา 02.40 น. ของเช้าวันที่ 6 ต.ค. สำหรับปีหน้า ปี 2018 จะเต็มดวงจริงในวันขึ้น 16 ค่ำ

สำหรับดวงจันทร์คืนวันไหว้พระจันทร์ที่กลมเต็มดวงสมบูรณ์ในวันขึ้น 15 ค่ำพอดี ก็มีอย่างเช่น ดวงจันทร์ของเมื่อปี 2013 ส่วนปี 2014 กับ 2015 เต็มดวงจริงในวันขึ้น 16 ค่ำ ส่วนปี 2016 ที่ผ่านมาเหมือนกับปีนี้คือเต็มดวงในวันขึ้น 17 ค่ำ แต่ถึงแม้พระจันทร์วันขึ้น 15 ค่ำของคืนนี้จะไม่ได้กลมกระจ่างสมบูรณ์ที่สุด แต่ก็มีความพิเศษตรงที่พระจันทร์จะปรากฏขึ้นให้เห็นเร็วกว่าเดิม ดังนั้น ชาวจีนสามารถออกชมจันทร์กระจ่างในวันเทศกาลได้ง่ายตั้งแต่หัวค่ำ ซึ่งการทานขนมไหว้พระจันทร์ในวันเทศกาลไปพร้อมกับการแหงนหน้าชมจันทร์ ที่ได้รับกล่าวขานว่าเป็นจันทร์ดวงงามสุดในรอบปี ยังคงเป็นรสชาติและสีสันของเทศกาลไหว้พระจันทร์ของจีน

การแสดงพิธีไหว้พระจันทร์แบบโบราณที่เมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน

โดยว่ากันว่าการรับประทานขนมไหว้พระจันทร์นี้เริ่มขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง(ถัง ค.ศ.618-907) และเป็นที่แพร่หลายในหมู่ประชาชนสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ (ซ่งเหนือ ค.ศ.960-1127) ซึ่งพื้นที่จีนทางเหนือกับทางใต้ มีธรรมเนียมปฏิบัติและค่านิยมที่แตกต่างกันไปบ้าง เช่น คนจีนทางเหนือจะให้ความสำคัญกับการอยู่บ้าน ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันมากกว่า แต่ทางใต้จะเน้นการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เป็นต้น

ทั้งนี้ ช่วงสัปดาห์ทองหยุดฉลองวันชาติจีนปีนี้ ยาวพิเศษต่อเนื่องเป็น 8 วัน คือตั้งแต่วันที่ 1-8 ต.ค. เนื่องจากมีการทำงานในวันเสาร์ที่ 30 ก.ย. และรวมวันไหว้พระจันทร์ ที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 4 ต.ค.เข้าไปด้วย ซึ่งช่วงเช้าวันที่ 1 ตุลาคมซึ่งเป็นวันชาติจีน ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินกรุงปักกิ่ง มีพิธีเชิญธงชาติจีนขึ้นสู่ยอดเสาตามปกติ แต่มีประชาชนกว่า 100,000 คนจากทั่วประเทศมาเฝ้ารอชมพิธีดังกล่าว

สภาพอากาศโดยรวมของวันที่ 1 ของกรุงปักกิ่ง มีอากาศสดชื่นแจ่มใสท้องฟ้าปลอดโปร่งดี แต่สำหรับในวันที่ 2 ต.ค.ท้องฟ้ากลับครึ้ม มีฝนเล็กน้อย และอากาศเย็นลงผิดจากเดิมด้วย โดยอุณหภูมิปักกิ่งของวันที่ 2 อยู่ระหว่าง 18-8 องศาเซลเซียส ซึ่งอุตุนิยมวิทยาจีนได้ออกมาประกาศเตือนก่อนหน้าแล้วว่า ช่วงตั้งแต่คืนวันที่ 1 – 4 ต.ค.นี้ พื้นที่ภาคเหนือของจีน รวมถึงจีนตอนกลางและตะวันออกจะมีอุณหภูมิลดต่ำลง เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากมวลอากาศเย็นที่พัดจากเหนือลงใต้

ทุกปีเนื่องในโอกาสฉลองวันชาติจีน ที่กลางจัตุรัสเทียนอันเหมินก็จะมีการจัดวางกระเช้าดอกไม้ขนาดยักษ์ด้วย โดยปีนี้มีความสูง 17 เมตร ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ 56 ดอกยักษ์ตัวแทน 56 ชนชาติของจีน และมีผลไม้ เช่น แอปเปิ้ลและผลทับทิม ที่เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความสิริมงคลและอุดมสมบูรณ์ โดยถูกนำมาจัดวางไว้ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา

เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府

เนื้อหาเกี่ยวข้องเพิ่มเติม

เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา：กระต่ายหมายจันทร์ของจีน "อี้ว์ทู่"
https://thai.cri.cn/247/2016/09/13/101s245950.htm

เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา：วันไหว้พระจันทร์ วันชมจันทร์
https://thai.cri.cn/247/2014/09/09/102s224645.htm

เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา：หลังคืนวันดวงจันทร์แทนดวงใจ
https://thai.cri.cn/247/2013/09/24/225s213800.htm

เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา：ขนมไหว้พระจันทร์ของขวัญสรรจากใจ
https://thai.cri.cn/247/2013/09/19/242s213678.htm