หลังพิธีต้อนรับสิ้นสุดลง นายจิมมี คาร์เตอร์ และนายเติ้ง เสี่ยวผิงจัดการเจรจาครั้งแรกในทำเนียบขาว นายจิมมี คาร์เตอร์ เป็นผู้หยิบยกประเด็นไต้หวันขึ้นมาพูด เขาต้องการให้จีนรับปากจะไม่ใช้กำลังอาวุธต่อไต้หวัน แต่ถูกนายเติ้ง เสี่ยวผิงปฏิเสธ นายเติ้ง เสี่ยวผิงกล่าวว่า สหรัฐฯ ต้องเร่งให้ไต้หวันดำเนินการเจรจากับแผ่นดินใหญ่จีน เพื่อแก้ไขปัญหาที่คั่งค้าง ด้านสหรัฐฯต้องมีท่าทีสุขุมรอบคอบในปัญหาขายอาวุธแก่ไต้หวัน จีนคัดค้านสหรัฐฯจำหน่ายอาวุธให้แก่ไต้หวันอย่างเด็ดขาด
ขณะกล่าวถึงประเด็นการแลกเปลี่ยนนักเรียนนักศึกษา นายเติ้ง เสี่ยวผิง กล่าวว่า จีนยินดีรับนักศึกษาสหรัฐฯ มาเรียนในประเทศจีน จีนจะดูแลพวกเขาอย่างดี เพื่อให้พวกเขามีความสุขช่วงที่อยู่ในประเทศจีน ด้านนายจิมมี คาร์เตอร์อยากให้นักศึกษาสหรัญฯอยู่ร่วมกับนักศึกษาจีน หรืออาศัยอยู่ในครอบครัวจีน แต่นายเติ้ง เสี่ยวผิงบอกว่า ขณะนี้ จีนยังไม่สะดวกที่จะจัดแบบนี้ เพราะสภาพที่อยู่อาศัยของครอบครัวจีนทั่วไปยังไม่มีความพร้อมที่จะรับนักศึกษาสหรัฐฯได้ คงต้องรอให้ชาวจีนมีสภาพความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตดีขึ้นก่อน แล้วค่อย พิจารณาอีกครั้ง
หลังเสร็จสิ้นการเจรจา นายจิมมี คาร์เตอร์ และนายเติ้ง เสี่ยวผิงร่วมกันให้สัมภาษผู้สื่อข่าว นายจิมมี คาร์เตอร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เราได้พูดคุยในประเด็นที่เป็นประโยชน์และมีลักษณะสร้างสรรค์ในระดับลึกซึ้งอย่างตรงไปตรงมาท่ามกลางความเป็นมิตร ขณะนี้ สหรัฐฯและจีนได้จัดตั้งกลไกการเจรจาเป็นประจำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากต่อทั้งประชาชนชาวสหรัฐฯและจีน
ด้านนายเติ้ง เสี่ยวผิง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับคำพูดทุกประโยคของนายจิมมี คาร์เตอร์ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า การเยือนสหรัฐฯครั้งนี้ จะเพิ่มพูนความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ และมีบทบาทให้การสนับสนุนแก่ความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านต่างๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิข วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น เขายังกล่าวว่า ขอถือโอกาสนี้ ขอบคุณประธานาธิบดี รัฐบาล และประชาชนสหรัฐอเมริกาที่ให้การต้อนรับข้าพเจ้าและคณะอย่างอบอุ่น หลังพูดจบ นายเติ้ง เสี่ยวผิง เดินเข้าไปจับมือกับนายจิมมี พร้อมกล่าวว่า ขอให้ประชาชนของทั้งสองประเทศเป็นมิตรกันตลอดไป
หลังการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสิ้นสุดลง นายเติ้ง เสี่ยวผิง และคณะเดินทางไปยังวุฒิสภา เพื่อร่วมงานเลี้ยงรับรองของวุฒิสภา โดยมีสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ 86 คนจากทั้งหมด 100 คนมาต้อนรับ นายเติ้ง เสี่ยวผิงได้หยิบยกประเด็นปัญหาไต้หวัน ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจากบรรดาสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ขึ้นมาพูดเป็นอันดับแรก โดยกล่าวว่า ประเด็นจีนจะแก้ไขปัญหาไต้หวันด้วยรูปแบบไหน และจีนมีนโยบายอย่างไรต่อการแก้ไขปัญหาไต้หวันนั้นเป็นประเด็นที่ทั่วโลกสนใจกัน ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า เราต้องการให้ไต้หวันกลับคืนสู่จีน และจะรวมเข้าเป็นปึกแผ่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ขอแต่เพียงไต้หวันกลับคืนสู่จีน และยอมรับโลกนี้มีจีนแต่ประเทศเดียว เราก็จะเคารพสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของไต้หวัน ซึ่งหมายความว่า จีนจะใช้นโยบายหนึ่งประเทศสองระบอบต่อการแก้ไขปัญหาไต้หวัน
นายเติ้ง เสี่ยวผิงยังกล่าวว่า การที่จีนและสหรัฐอเมริกาเป็นมิตรกันตลอดไปนั้นสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศและของโลกด้วย ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลายจึงต่างได้แบกรับภารหน้าที่ในการส่งเสริมความั่นคงและสันติภาพของโลก ข้าพเจ้ายินดีร่วมกันใช้ความพยายามกับทุกท่าน เพื่อบรรลุภาระหน้าที่นี้
นายเติ้ง เสี่ยวผิงยังกล่าวว่า จีนและสหรัฐฯมีระบบสังคม และจิตสำนึกที่ต่างกันอย่างมาก จึงต้องการให้ผู้นำของสองประเทศมีวิศัยทัศน์ที่กว้างไกล และจัดการความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศโดยพิจารณาจากสถานการณ์โดยรวมของทั้งสองประเทศและของโลก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ และของโลก
วันที่ 31 มกราคมปี 1979 นายเติ้ง เสี่ยวผิง และนายจิมมี คาร์เตอร์ร่วมลงนามในข้อตกลงระหว่างจีน-สหรัฐฯว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม หลังพิธีลงนาม นายจิมมี คาร์เตอร์ กล่าวคำปราศรัยว่า ในช่วงเวลา 3 วันที่ผ่านมา เราได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจที่ไม่ธรรมดา เป้าหมายของเราคือ ทำให้การไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชนสหรัฐฯกับจีนเกิดขึ้นเป็นประจำ และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของประชาชนทั้งสองประเทศ จากนั้น นายจิมมี คาร์เตอร์หันมากล่าวกับนายเติ้ง เสี่ยวผิงว่า ฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรีใกล้จะเสร็จสิ้นการเยือนกรุงวอชิงตัน วันพรุ่งนี้ ท่านและคณะจะเดินทางไปเยือนแอตแลนตา ฮิวสตัน และ ซีแอตเทิล จากการเยือน 3 เมืองนี้ ท่านจะเข้าใจสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอเมริกันมากขึ้น ประชาชนในเมืองดังกล่าวกำลังรอคอยการเยือนของท่าน และคณะแน่นอน การเยือนกรุงวอชิงตัน ท่านได้รู้จักกับเพื่อนใหม่จำนวนมาก จากการเยือน 3 เมืองดังกล่าว ท่านจะรู้จักกับเพื่อนชาวสหรัฐฯอีกมาก
ด้านนายเติ้ง เสี่ยวผิงตอบว่า การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ และส่งเสริมการไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชนประเทศต่างๆนั้น จะมีส่วนช่วยต่อเสถียรภาพ และสันติภาพของโลก ข้าพเจ้าจึงเชื่อมั่นว่า การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งจีนและสหรัฐฯ อีกทั้งประชาชนทั่วโลกด้วย