จีนกำลังย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ต่อไปคือฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนที่อยู่ในภาคเหนือของประเทศกังวลว่าจะอ้วนขึ้น เพราะหน้าหนาวมักจะรับประทานอาหารมากและออกกำลังกายน้อย
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สาเหตุที่ทำให้อ้วนขึ้นมีหลายประการ เช่น พันธุกรรม ถ้าในครอบครัวมีหลายคนเป็นคนอ้วน ก็จะเพิ่มความเป็นไปได้ที่ตนเองจะอ้วนด้วย หรืออาจเนื่องจากฮอร์โมนไม่สมดุล ความเคยชินการรับประทานอาหารที่ไม่ดี เช่น ชอบกินของหวาน ไขมันสูง โปรตีนสูง โดยเฉพาะรับประทานเครื่องในและไขมันสัตว์มากเกินควร ตลอดจนกินของขบเคี้ยวและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก จะทำให้อ้วน นอกจากนี้ ปัจจัยทางจิตใจก็สำคัญมากเช่นกัน การใช้ชีวิตอย่างสบายๆ มักอ้วนขึ้นง่าย แต่ถ้ามีแรงกดดันมาก หรือไม่สบายใจ ก็มักจะกินมากเพื่อผ่อนคลายความเครียด จนมีน้ำหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัว พร้อมๆ กับที่อายุมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงเข้าสู่ช่วงวัยทองแล้ว จะออกกำลังกายน้อยลง ทำให้ไขมันตกค้างในร่างกายเพิ่มขึ้นทุกวัน อ้วนขึ้นง่าย อีกอย่างหนึ่งคือสิ่งแวดล้อมหรือภูมิอากาศ ในพื้นที่เขตหนาว มักต้องกินเยอะๆ เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นก็จะอ้วนขึ้นด้วย
ความอ้วนและผอมไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง มีคนจำนวนไม่น้อยเลือกไม่รับประทานอาหารหลักพวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต กลัวกินแล้วจะอ้วนขึ้น แต่ความจริง คาร์โบไฮเดรตมีกลูโคส เซลลูโลส และน้ำตาล ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายขาดไม่ได้ ถ้าไม่รับประทานเป็นเวลานาน จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร จนสารโภชนาการไม่สมดุล จึงเกิดผลเสียต่อร่างกาย เช่น สำหรับผู้หญิง ประจำเดือนจะไม่มาปกติหรือปวดประจำเดือน ผลวิจัยของกระทรวงสาธารณะสุขญี่ปุ่นระบุว่า คาร์โบไฮเดรตจะทำให้ร่างกายได้กลูโคส ซึ่งจะไปเลี้ยงสมอง ระบบประสาท เม็ดเลือดแดงและลูกอัณฑะ หากได้คาร์โบไฮเตรตไม่เพียงพอ จะส่งผลกระทบต่อสมองและระบบประสาท ทำให้ความจำเสื่อม นอกจากนี้ เมื่อร่างกายขาดน้ำตาล จะทำให้เกิดอารมณ์เศร้า เวียนหัว โกรธง่าย เจ้าอารมณ์ อย่างที่เรามักพูดเล่นว่า การรับประทานของหวานจะทำให้รู้สึกอารมณ์ดีมีความสุข และการขาดคาร์โบไฮเดรตจะทำให้อ้วนขึ้นง่าย เพราะเมื่อร่างกายขาดกลูโคสและน้ำตาลแล้ว กล้ามเนื้อจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน จนทำให้ไขมันตกค้างมากขึ้น อ้วนขึ้น
อาหารแทบทุกชนิด จะมีสารโภชนาการที่ร่างกายต้องการ แต่ไม่ว่าอร่อยอย่างไร ชอบกินถึงขนาดไหน ก็ไม่ควรรับประทานมากเกินไป จีนมีคำพังเพยว่า "七分饱三分寒,白菜豆腐保平安" แปลว่า "รับประทานอาหารให้อิ่ม 70% ให้ร่างกายมีความรู้สึกหนาว 30% ผักกาดขาวและเต้าหู้เป็นอาหารที่บำรุงร่างกายที่ดีที่สุด" ไม่ต้องรับประทานเนื้อสัตว์มาก กับข้าวง่ายๆ จะเป็นอาหารที่ย่อยง่าย มีสารโภชนาการสมบูรณ์เช่นกัน
กาารักษาหุ่นดี ยังต้องมีอารมณ์ดีด้วย เพราะการซึมเศร้าหรือโกรธ จะทำร้ายร่างกาย ทำให้กินมากเกินไปหรือน้อยเกินไป จนอ้วนขึ้นหรือผอมลง สุขภาพไม่แข็งแรง บางทีเมื่อโกรธมากๆ มักพูดว่า "โกรธจะตาย" ผู้เชี่ยวชาญพบว่า ประโยคนี้ไม่ใช่พูดเล่น จะเป็นเรื่องจริงก็ได้ เมื่อโกรธ หัวใจจะเต็นเร็ว เลือกจำนวนมากไหลเข้าสู่หัวใจ หัวใจจึงต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้ชีพจรเต้นไม่ปกติ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด กระทั่งเกิดอาการหัวใจวายได้ด้วย การแพทย์แผนโบราณจีนเห็นว่า "ความโกรธจะทำร้ายตับ" เมื่อโกรธมาก เรามักรู้สึกปวดที่ตับ เพราะตับจะขยายตัวเวลาโกรธ ถ้าโกรธ โมโหบ่อยๆ จะเกิดโรคตับ อาจเป็นตับแข็งด้วย ส่วนระบบภูมิต้านทานเมื่อโกรธแล้ว จะหยุดทำงานเป็นเวลา 6 ชั่วโมงทีเดียว เลือดที่ไหลเข้าสู่กระเพาะอาหารและลำไส้จะลดลง การขาดเลือดทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้ขยับตัวลำบาก จนย่อยอาหารลำบากด้วย สำหรับผู้หญิง ถ้าโกรธบ่อยๆ จะทำให้เต้านมเกิดเนื้องอกขึ้น ถ้าไม่รักษาอย่างทันเวลา ก็จะกลายเป็นมะเร็งเต้านมง่าย และการโกรธยังจะส่งผลให้ผิวหน้าเกิดสิวและฝ้าง่าย เพราะการโกรธจะทำให้ร่างกายขับสารพิษออกมา เมื่อเลือดไหลเข้าสู่ใบหน้ามากขึ้น สารพิษก็จะเพิ่มขึ้นด้วย อาการเหล่านี้ล้วนรักษาด้วยยาไม่ได้ ต้องปรับปรุงตนเองให้มีจิตใจสงบลงด้วยตนเอง จึงจะทำให้อาการดีขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ต้องตั้งใจจะรักษาหุ่น หรือลดความอ้วน คนเรามักไม่รู้จักพอ คนอ้วนอยากผอม คนผอมอยากอ้วน คนที่ไม่ผอมไม่อ้วนก็อยากสวยยิ่งขึ้น...... สุขภาพแข็งแรงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต รับประทานผักและผลไม้สดให้มาก ไม่เลือกรับประทานอาหารเฉพาะชนิดใดชนิดหนึ่ง ให้มีความสมบูรณ์ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม มีอารมณ์ดีและมีน้ำใจเมตตาต่อคนอื่น ก็จะมีความสวยทั้งรูปร่างหน้าตาและจิตใจ