ในประเทศจีน เนื่องจากรัฐบาลใช้นโยบายวางแผนครอบครัวมาหลายสิบปี ทำให้กลุ่มคนที่เป็นลูกคนเดียวโดดเดี่ยว ไม่มีพี่ๆ น้องๆ ในครอบครัวเดียวกัน น่าสงสารมาก แต่ยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสงสารกว่าพวกเขา นั่นคือพ่อแม่ที่เสียลูกคนเดียวไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรคาดว่า ปัจจุบันจีนมีลูกคนเดียวหรือลูกโทนประมาณ 218 ล้านคน ในจำนวนนี้ จะมีประมาณ 10,090,000 คนเสียชีวิตก่อนอายุ 25 ปี หมายถึงในอีกไม่นาน จีนจะมีประมาณ 10,000,000 ครอบครัวเสียลูกคนเดียวไป เมื่อเร็ว ๆนี้ ครอบครัวเสียลูกคนเดียวได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเรื่องนี้กำลังเป็นปัญหาสังคมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในสังคมจีน สำหรับผู้สูงอายุเหล่านั้น นอกจากต้องทนความเศร้าใจและและเสียใจจากการเสียลูกแล้ว ยังต้องเผชิญกับปัญหาความชราภาพอีก  

พวกเขาส่วนใหญ่อายุประมาณ 50 ปี ไม่สามารถให้กำเนิดลูกได้อีกแล้ว ปัจจุบัน จีนมีครอบครัวที่สูญเสียลูกคนเดียวกว่า 1 ล้านครอบครัว ถ้าสังคมและรัฐบาลร่วมกันให้ความช่วยเหลือและให้องค์การภาคเอกชนมีส่วนร่วมในด้านการรักษาทางจิตใจ ยังสามารถช่วยครอบครัวเหล่านี้ได้ แต่ถ้าเพิ่มขึ้นถึง 10 ล้านครอบครัว ไม่ว่ารัฐบาลหรือองค์การภาคเอกชนก็คงไม่มีความสามารถช่วยได้แล้ว เมื่อปี 2001 รัฐบาลจีนประกาศ "กฎหมายว่าด้วยประชากรและการวางแผนครอบครัว" มาตราที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวเสียลูกคนเดียวกำหนดไว้ว่า สำหรับครอบครัวที่ลูกคนเดียวเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจนพิการ แต่พ่อแม่ไม่สามารถมีลูกอีกหรือรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ฝ่ายบริหารท้องถิ่นควรให้ความช่วยเหลือที่จำเป็น

ปัจจุบัน สำหรับครอบครัวเหล่านี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เงินช่วยเหลือจำนวน 100-200 หยวนต่อคนต่อเดือน แต่มีเงื่อนไขบังคับคือ ฝ่ายหญิงต้องมีอายุมากกว่า 49 ปี ทั้งสามีและภรรยาถึงจะมีสิทธิได้รับเงิน แต่อย่างไรก็ตาม เงินแค่นี้ช่วยอะไรไม่ได้ ถ้าจะแก้ปัญหาสงเคราะห์การชราภาพของผู้สูงอายุกลุ่มนี้ให้ได้ผล ต้องดำเนินการสำรวจครอบครัวที่สูญเสียลูกคนเดียวอย่างจริงจัง รับรู้ความลำบากทุกข์ยากและคำร้องขอของพวกเขา ส่วนรัฐบาลเองก็ต้องมีนโยบายช่วยเหลือที่เหมาะสม

เนื่องจากเคยผ่านความเศร้าใจอย่างหนัก ผู้สูงอายุที่เสียลูกคนเดียวส่วนใหญ่ไม่อยากเข้าไปอยู่ในสถานสงเคราะห์คนชราธรรมดา กลับชอบอยู่กับผู้สูงอายุที่มีชะตากรรมเดียวกัน และหวังว่าจะมีองค์กรสงเคราะห์สำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ เพราะรู้สึกว่าอยู่ด้วยกันสบายใจกว่า นักวิจัยศูนย์วิจัยชราภาพของจีนกล่าวว่า สำหรับครอบครัวที่เสียลูกคนเดียวที่ไม่มีปัญหาปากท้อง ควรให้ความช่วยเหลือด้านจิตใจ ถ้าเป็นครอบครัวที่ยากจน ควรให้ความช่วยเหลือทั้งด้านทรัพย์สิน แก้ปัญหาปากท้องก่อน และจัดให้เข้าอยู่ในสถานสงเคราะห์คนชรา รัฐบาลและวงการต่างๆ ในสังคมควรใช้ความพยายามร่วมกันเพื่อให้พวกเขาอยู่เย็นเป็นสุข

แม้ว่ารัฐบาลพยายามหาวิธีการแก้ปัญหาคนชรา แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นตอ ผู้เชี่ยวชาญบางคนเห็นว่า วิธีที่ดีที่สุดคือ ผ่อนคลายนโยบายลูกคนเดียว อนุญาติให้แต่ละครอบครัวมีลูก 2 คนได้ เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์ SINA ของจีนทำการสำรวจเกี่ยวกับนโยบายวางแผนครอบครัว ผลปรากฎว่า ในผู้เข้าร่วมการสำรวจจำนวนกว่า 20,000 คนนั้น มีประมาณ 57% อยากมีลูก 2 คน 28% มีหรือไม่มีก็ได้ ประมาณ 72% เห็นว่าลูกคนเดียวโดดเดี่ยวเกินไป และลูกมักมีบุคลิกภาพที่เห็นแก่ตัว หยิ่ง ให้ความร่วมมือกับคนอื่นไม่เป็น แสดงว่า ชาวจีนส่วนใหญ่เห็นว่าควรปรับนโยบายลูกคนเดียว  

นายมู่ กวางจง ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรเห็นว่า ครอบครัวลูกคนเดียวต้องเผชิญกับความเสี่ยง 5 ประการ ได้แก่ การอยู่รอด การเติบโตเป็นผู้ที่มีคุณค่าต่อสังคม การดูแลครอบครัวในวัยชรา การพัฒนาทางสังคมและการป้องกันประเทศ เนื่องจากเกิดปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ ปีหลังๆ นี้ รัฐบาลจีนจึงค่อยๆ ปรับนโยบายวางแผนครอบครัว โดยอนุญาติให้ครอบครัวที่สามีภรรยาต่างก็เป็นลูกคนเดียวมีลูก 2 คนได้ หนังสือพิมพ์เป่ยจิงชิงเหนียนดำเนินการสำรวจลูกคนเดียวที่เกิดตั้งแต่ปี 1980-1989 จำนวน 6,007 คน ผลปรากฎว่า 61.3% เห็นว่า ลูกคนเดียวโดดเดี่ยวและเงียบเหงากว่าครอบครัวที่มีลูกหลายคน ยากที่จะแบ่งบันความสุขความทุกข์กับคนอื่น 66.9% อยากมีพี่น้องอยู่ร่วมกัน 46.1% อยากมีลูก 2 คน เพราะรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวมากอยู่แล้ว จึงไม่อยากให้ลูกน่าสงสารเหมือนพ่อแม่ หวังว่าในอนาคต รัฐบาลจีนจะยกเลิกนโยบายลูกคนเดียว อนุญาตให้ครอบครัวทั่วประเทศมีลูก 2 คนได้

เรามาถึงโลกนี้ไม่ควรโดดเดี่ยวตลอด ความโดดเดี่ยวทำให้ลูกคนเดียวในประเทศจีนมีความไม่สมบูรณ์ทางบุคลิกภาพ พวกเขาก็ควรมีโอกาสที่จะมี

พี่ๆน้องๆ รักกันช่วยเหลือกัน เมื่อพ่อแม่แก่ลงจนจากโลกนี้ไป ยังมีพี่น้องคอยให้ความเอาใจใส่ให้ความอบอุ่นกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามีคนเดียวหรือ 2 คน ความปรารถนาของเราทุกคนก็เหมือนกัน นั่นก็คือ ขอให้รุ่นหลังมีความสุขตลอดชีวิต