วิทยาลัยศิลปะเซียงซาน แห่งประเทศจีน ในเมืองหางโจว
ที่วิทยาลัยศิลปะแห่งนนี้นี่เองที่เขาได้นำเอาภูมิรู้เกี่ยวกับช่างฝีมือท้องถิ่นที่ฝึกฝนมาเป็นเวลานานมาใช้ และเป็นจุดเริ่มที่แสดงออกถึงแนวคิดเกี่ยวกับการกู้ชีวิตเศษซากงานก่อสร้างหรือใช้วัสดึเก่ามาปรับปรุงใหม่ผ่านการออกแบบที่สวยงาม เพราะเขาได้นำเอาแผ่นกระเบื้องจากบ้านเก่าแก่กว่า 2 ล้านแผ่น มามุงหลังคาอาคารวิทยาลัยแห่งนี้
ในระหว่างนี้ช่วงปี 2006 เขาได้ออกแบบอาคารเซรามิกขึ้นที่เมืองจินหวา มณฑลเจ้อเจียง
ต่อมาเขาได้เริ่มออกแบบคอนโดมิเนียมหรูสูง 26 ชั้น จำนวน 6 หลัง ที่เมืองหางโจว และผลงานนี้ถูกเสนอชื่อให้ได้รับรางวัล The German based International High-Rise Award จากการจำลองถนนโบราณในสมัยรางวงศ์ซ่งใต้มาไว้ในพื้นที่ของหมู่ตึก โครงการนี้สร้างแล้วเสร็จในปี 2009
ในระดับนานาชาติเขาและภรรยาเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะได้รับเหรียญทองด้านการออกแบบจากสถาบันสถาปัตยกรรมแห่งฝรั่งเศส ในปี 2011 และในปี 2010 ยังได้รับรางวัลทางสถาปัตยกรรมเยอรมัน สเชลลิ่ง
คอนโดมิเนียมหรูสูง 26 ชั้น จำนวน 6 หลัง ที่เมืองหางโจว
นอกจากนี้ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา "หวัง ชู่" ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าแผนกสถาปัตยกรรมของสถาบันจิตรกรรมศึกษาเจ้อเจียง ที่เมืองหางโจว ที่เขาเคยทำหน้าที่วิจัยสิ่งแวดล้อมและสถาปัตยกรรมอยู่นานกว่า 10 ปี และเมื่อปีที่แล้ว "หวัง ชู่" เป็นชาวจีนคนแรกที่ถูกรับเชิญให้ไปบรรยายที่โรงเรียนออกแบบฮาวาร์ดของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ที่มลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ในฐานะอาจารย์รับเชิญพิเศาของโครงการ "Kenso Tange Visiting Professor" นอกจากนี้ยังเดินทางไปบรรยายในมหาวิทยาลัยอื่นๆ ด้วย อาทิ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส(ยูซีแอลเอ) มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด มหาวิทยาลัยเท็กซัส มหาวิทยาลัยเเพนซิลวาเนีย เป็นต้น นอกจากนี้ยังเข้าร่วมงานแสดงศิลปะระดับนานาชาติหลายครั้งในเวนิส ฮ่องกง บัรสเซลส์ และปารีส ซึ่งที่งานสถาปัตยกรรม เวนิส เบียนนาเล่ เมื่อปี 2006 เขาก็ได้นำผลงานที่ชื่อว่า "สวนกระเบื้อง" (Tiled Garden) เข้าร่วมแสดง ซึ่งแสดงผลพวงทางความคิดและการเป็นพยานในการรื้อทำลายเพื่อสร้างเมืองใหม่มามากมาย อันเป็นส่วนหนึ่งของวิชาชีพที่เขาเพียรปฏิบัติมาโดยตลอด งานแสดงชิ้นนี้เขาได้นำเอากระเบื้องที่เกิดจากการรื้อทำลายอาคารต่างๆ ในเมืองจีนจำนวน 60,000 แผ่นมาจัดวางในห้องแสดง ซึ่งได้รับการชื่นชมจากผู้ร่วมงานอย่างยิ่ง เพราะได้ฉีกแนวทางทัศนคติการทำงานในรูปแบบตะวันตกเช่นที่งานเชิงศิลปะร่วมสมัยของเขาเคยทำมาโดยตลอด นั่นก็คือการยึดรากความเป็นวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์จีน
รางวัลและผลงานที่ผลิตออกมาไม่ขาดสายของเขาตลอดชั่ววิชาชีพนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าควรค่าอย่างยิ่งที่เขาจะได้รับการเชิดชูให้เป็นสุดยอดสถาปนิกโลกขณะที่มีวัยเพียง 48 ปี
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบผลงานตามแนวคิดการผสมผสานกลมกลืนระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและวัฒนธรรมเมืองสมัยใหม่ การยึดรากเหง้าของตัวเองอย่างมั่นคง ขณะที่เสริมแนวความคิดสร้างสรรค์ที่สถาปนิกระดับพรสวรรค์คนอื่นไม่มี นั่นเพราะเขาได้แตกฉานในองค์ความรู้พื้นฐานของการก่อสร้างอาคารสมัยโบราณแบบจีนมาก่อนจากการเฝ้าเพียรศึกษาจากครูช่าง ครูศิลปะพื้นบ้านอยู่นานนับสิบปี
ผลงานการออกแบบของเขานอกจากเปี่ยมด้วยประโยชน์ใช้สอยแล้ว ยังได้กลายเป็นอนุสาวรีย์ไปโดยปริยาย เพราะด้วยคุณค่าทางศิลปะและประวัติศาสตร์ที่เปล่งประกายอยู่ในตัวเอง ที่สำคัญแสดงให้เห็นอารยธรรมของเมืองสมัยใหม่ เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง และเป็นตัวแทนของประเทศจีน
ในวันที่ 25 พฤษภาคม จะมีการจัดพิธีมอบรางวัลนี้ที่กรุงปักกิ่ง ถึงวันนั้นผู้คนทั่วประเทศคงจะได้รู้จักกับ "หวัง ชู่" สุดยอดสถาปนิกจีนคนนี้มากขึ้น เพราะปัจจุบันยังชื่อเสียงของเขายังจำกัดอยู่เฉพาะคนในแวดวงและสื่อมวลชนในต่างประเทศเท่านั้น และเป็นไปได้ว่าหลังจากนี้ ชาวโลกอาจจะได้เห็นผลงานของเขามากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าจะต้องมีสักแห่งหนึ่งเกิดขึ้นในกรุงปักกิ่งแน่นอน
พัลลภ สามสี