นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ได้รับสมญานาม "หญิงเหล็ก" จากการมีท่าทีแข็งกร้าวในการจัดการกิจการระหว่างประเทศ เมื่อเดือนมีนาคม ปี 1982 อาร์เจนตินาบุกยึด หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ได้สั่งการให้กองเรือรบมุ่งหน้าสู่เกาะฟอล์กแลนด์ในทันที และได้รับชัยชนะจากสงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ในเวลาต่อมา
หลังอังกฤษได้รับชัยชนะในสงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ไม่กี่วัน คือวันที่ 28 กรกฏาคม นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์เดินทางมาเยือนกรุงปักกิ่งด้วยความเชื่อมั่นและลำพอง โดยก่อนหน้าการเดินทางมาจีน นางมาร์กาเร็ตได้ศึกษาพื้นฐานทางกฎหมายของประเทศจีนมาอย่างดี รวมถึงประวัติศาสตร์การสูญเสียฮ่องกงของราชสำนักชิงจากสนธิสัญญา 3 ฉบับ จากนั้น นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ เรียกประชุมที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรี เพื่อเตรียมการเดินทางมาเยือนจีน ก่อนหน้านั้น นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ ได้รับทราบเนื้อหาการเจรจาระหว่างนายเติ้ง เสี่ยวผิง และ นายเอ็ดเวิร์ด ฮีท อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษแล้ว จึงรู้ดีว่า จีนไม่ใช่ อาร์เจนตินา ฮ่องกงก็ไม่ใช่หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ อย่างไรก็ตาม นางไม่ยอมรับข้อเสนอของจีนในการแก้ไขปัญหาฮ่องกง นางแสดงข้อคิดเห็นว่า อังกฤษจะมีสิทธิ์ปกครองบริหารฮ่องกงต่อไป เพราะได้ลงนามในสนธิสัญญา 3 ฉบับกับราชสำนักชิงเมื่อศตวรรษที่ 19 ในสัญญาระบุชัดเจนว่า เกาะฮ่องกง และเขตจิ่วหลงเป็นดินแดนที่ราชสำนักชิงแบ่งแยกให้อังกฤษอย่างถาวร ส่วนเขตซินเจี้ยเป็นดินแดนที่อังกฤษเช่าจากราชสำนักชิง ถึงแม้ว่ารัฐบาลจีนยุคปัจจุบันไม่ยอมรับสนธิสัญญา 3 ฉบับที่ราชสำนักชิงทำกับอังกฤษ แต่อังกฤษเห็นว่า ตามกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญา 3 ฉบับนี้ยังคงมีผลบังคับใช้
แต่รัฐบาลจีนเห็นว่า ปัญหาฮ่องกงเป็นปัญหาที่เกิดจากอังกฤษทำสงครามรุกรานจีน และบังคับให้ราชสำนักชิงทำสนธิสัญญาที่ไม่ยุติธรรม 3 ฉบับกับอังกฤษ สนธิสัญญา 3 ฉบับนี้จึงไม่มีผลบังคับใช้ใดๆ นับตั้งแต่วันที่ลงนามกัน ด้วยเหตุนี้ การกลับมาใช้อำนาจอธิปไตยต่อฮ่องกงจึงเป็นสิทธิ์ที่ชอบด้วยกฎหมายของจีน อย่างไรก็ตาม จีนยินดีที่จะจัดการเจรจากับอังกฤษเพื่อแก้ไขปัญหาฮ่องกง เพราะว่า จีนอยากเห็นฮ่องกงคงไว้ซึ่งความเจริญรุ่งเรือง และเสถียรภาพ
ดังนั้น ประเด็นหลักของการเจรจาระหว่างจีนกับอังกฤษต้องเน้นประเด็นทำเช่นไรจึงจะสามารถรักษาความเจริญรุ่งเรือง และเสถียรภาพในฮ่องกง ประเด็นที่สำคัญที่สุดในการเจรจาระหว่างจีนกับอังกฤษคือ การวางแผนการบริหารงานในฮ่องกงอย่างสันติ ภายหลังฮ่องกงกลับคืนสู่จีน ซึ่งนั่นถือเป็นภารกิจสำคัญ ที่ทั้งสองประเทศจะต้องร่วมกันหารือในอนาคต
วันที่ 24 กันยายนปี 1982 นายเติ้ง เสี่ยวผิง พบปะกับางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ที่มหาศาลาประชาคมปักกิ่ง ระหว่างการเจรจา นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ ยืนกรานในจุดยืนที่ว่า สนธิสัญญา 3 ฉบับที่ราชสำนักชิงทำกับอังกฤษนั้นยังคงมีผลบังคับใช้ ทั้งยังกล่าวว่า ถ้ารัฐบาลจีนยินยอมให้อังกฤษปกครองบริหารฮ่องกงต่อไปหลังปี 1997 นางจะพยายามให้การแก้ไขปัญหาฮ่องกงเป็นไปในแนวทางที่จีนต้องการ
ด้านนายเติ้ง เสี่ยวผิงโต้กลับทันทีว่า จุดยืนในปัญหาฮ่องกงของจีนมีความชัดเจนมาก คือ จีนจะต้องกลับมาใช้อำนาจอธิปไตยเหนือฮ่องกง ซึ่งรวมทั้งเกาะฮ่องกง เขตจิ่วหลง และเขตซินเจี้ยภายในปี 1997 ประเด็นนี้ไม่ต้องคุยกัน ประเด็นที่จีนจะเจรจากับอังกฤษคือ การวางแผนการบริหารงานในฮ่องกงอย่างสันติ ก่อนและหลังฮ่องกงกลับคืนสู่จีน
เห็นได้ชัดจากการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายว่า ความมุ่งหมายของนางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ที่อยากจะใช้อำนาจอธิปไตยของฮ่องกงมาแลกกับสิทธิในการปกครองบริหารฮ่องกงนั้นไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ อย่างไรก็ตาม นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ ยังไม่ยอมแพ้ จึงกล่าวกับนายเติ้ง เสี่ยวผิงว่า ถ้าจีนไม่ยอมรับข้อเสนอของอังกฤษ การพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกงอาจประสบอุปสรรคมาก ซึ่งจะสร้างความเสียหายมหาศาลให้กับจีน แต่นายเติ้ง เสี่ยวผิง ไม่กังวลในประเด็นนี้ จึงตอบกลับทันทีว่า คนจำนวนหนึ่งเห็นว่า ถ้าไม่สามารถคงไว้ซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของฮ่องกง การพัฒนาเศรษฐกิจของแผ่นดินใหญ่จีนก็จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากการนี้ แต่ข้าพเจ้ากลับเห็นว่า การประเมินเช่นนี้ไม่ถูกต้อง เพราะว่า จะสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีนได้หรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับฮ่องกงเพียงปัจจัยเดียว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมาก ส่วนปัญหานักธุรกิจบางส่วนอาจถอนเงินทุนออกจากฮ่องกงนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่า ขอเพียงจีนใช้โยบายที่ถูกต้อง เงินทุนที่ไหลออกจากฮ่องกงจะไหลกลับมาในที่สุด
ถ้อยคำทางการทูตที่เปี่ยมไปด้วยความสุขุมคัมภีรภาพของนายเติ้งเสี่ยวผิง ทำให้นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ ถึงกับเดินสะดุดล้มลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้น ขณะลงจากบันไดของมหาศาลาประชาคม ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน ภายหลังการเจรจาประมาณ 3 ชั่วโมง
หลังจากนั้นการเจรจาอีกหลายระลอกก็ดำเนินไปตามลำดับขั้นตอน นับตั้งแต่จีนเสนอแผน 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' ใช้ในการบริหารงานภายในฮ่องกงหลังจีนกลับมามีอำนาจอธิปไตยต่อฮ่องกง การร่วมลงนามบันทึกช่วยจำในประเด็นต่างๆ และการตรากฎหมายใหม่บางฉบับ ตลอดจนการเลือกตั้งผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งขั้นตอนการเตรียมการต้อนรับฮ่องกงกลับคืนสู่จีนนี้ใช้เวลายาวนานถึง 15 ปี
วันที่ 19 ธันวาคม 1984 ผู้นำจีน และอังกฤษร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยปัญหาฮ่องกง โดยกำหนดให้วันที่ 1 กรกฎาคม ปี1997 เป็นวันที่จีนเริ่มกลับมาใช้อำนาจอธิปไตยเหนือฮ่องกงอย่างเป็นทางการ