ปัจจุบันที่นี่ถูกอนุรักษ์และสร้างให้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่ควรภาคภูมิใจ และเปิดให้คนทุกชาติทุกภาษาที่ตั้งใจมาซึมซับความยิ่งใหญ่ของขบวนการนักศึกษา ประวัติศาสตร์ของรัฐบาลทหารที่ต้องการสถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิที่ต้อง้ลมลงเพราะความร่วมแรงร่วมใจของทุกคนในชาติ และการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่าเริ่มต้นอย่างไร ต้องร่วมแรงร่วมใจกันแค่ไหน ต้องศึกษาและแปลงานจำนวนมากเท่าใด เพื่อวางรากฐานให้กับธงใหม่ที่นำพาประเทศจีนมาจนถึงทุกวันนี้
ความบังเอิญแห่งชาติครั้งนี้ ทำให้เพื่อนร่วมเดินทางชาวไทยอีก 4 คน ซึ่งเพียงเคยได้ยินชื่อของ "ขบวนการนักศึกษา 4 พฤษภาฯ" หรือบางคนได้อ่านผลงานของหลู่ ซิ่นมาบ้าง และบางคนเพิ่งรู้ว่าเหมา เจ๋อตง ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของจีนก็เคยทำงานที่นี่มาก่อนสนเท่ห์ใจ และยังกันสงสัยเสมอมาว่า "เหตุใดประเทศไทยไม่มีพิพิธภัณฑ์การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475" เพราะน่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะภาคภูมิใจเหมือนชาวจีน หรือไม่มีพิพิธภัณฑ์เหตุการณ์เดือนตุลาฯ 2516 และ 2519 ซึ่งก็เป็นขบวนการนักศึกษาของไทยที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน และเป็นส่วนสำคัญในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ แล้วเปิดให้คคนทั่วไปที่สนใจมาศึกษาเรียนรู้อย่างเปิดเผยเช่นนี้บ้าง
ความบังเอิญในวันนี้ทำให้ทุกคนนอกจากจะได้อิ่มใจกับงานศิลปะแล้ว ยังอิ่มสมองไปกับความรู้ประวัติศาสตร์เบื้องต้นของจีนสมัยใหม่อย่างที่ไม่ได้คาดหวัง และสุดท้ายยังได้อุปกรณ์ศิลปะราคากันเองจากย่านนั้นติดไม้ติดมือกันไปด้วยแบบพะรุงพะรัง
ถ้าสนใจจะมาสถานที่ทั้งสองแห่งนี้ ก็ง่ายๆ เพียงแค่นั่งรถไฟใต้ดินสาย 5 มาลงที่สถานีตงซื่อ (Dongsi) แล้วเดินมาตามถนนอู่ ซื่อ ต้า เจีย (ฝั่งทิศตะวันตก) ประมาณ 300 เมตรก็จะพบ
โดย พัลลภ สามสี