รูป A
หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 85 % ส่วนที่เหลือเป็นกรุงเทพฯและปักกิ่ง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพของคนที่มีความแตกต่างกันแต่ต้องร่วมทางกันไปเชียงใหม่ โดยที่ต่างคนต่างมีจุดมุ่งหมายกันคนละอย่าง แต่ท้ายสุดก็ก่อเกิดเป็นมิตรภาพที่ดี การค้นพบสัจธรรมและการปล่อยวางซึ่งผ่านฉากต่างๆ และวิถีความเชื่อแบบเรียบง่ายเกี่ยวกับศาสนาพุทธของไทยในมุมมองของชาวจีน นอกจากจะได้ความสนุกสนานแล้วยังให้แง่คิดดีๆ หากไม่หัวเราะจนลืมไปก่อน
รูป B
ปรากฏการณ์ดังเป็นพลุแตกของหนังนี้เกิดจากกระแสสังคมออนไลน์ที่พูดกันปากต่อปาก หลังจากดูก็นำมาโพสต์บนเวยโบ๋หรือทวิตเตอร์ของจีน จนทำให้ผู้คนแห่กันไปดูและอยากจะเข้าใจถึงมุขตลกที่คนส่วนใหญ่พูดกัน และอีกทั้งอยากเห็นสาวประเภทสองของไทยที่ร่ำลือกันมานานในจีนว่า "สวยสมบูรณ์แบบไร้ที่ติมาก" เพราะเชื่อหรือไม่ว่า ชาวจีนส่วนหนึ่งยังคิดว่า สาวประเภทสองหรือกระเทยไทยนั้นเป็นผู้หญิงที่สวยมากเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องเพศทางเลือกหรือเพศที่สามมาก่อน แต่หนังเรื่องนี้ก็ให้ความรู้กับผู้ชมในแง่ข้อเท็จจริงและที่สำคัญให้เกียรติกับสาวๆ เหล่านั้นด้วย นอกจากจะพูดถึงสาวประเภทสองแล้ว ยังมีสิ่งต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ไทยในหนังเรื่องนี้ได้สร้างกระแสให้ผู้ชมต้องท่องเที่ยวตามรอยหนังเป็นแน่ ไม่ว่าจะเป็นนั่งรถไฟชั้นสามไปเชียงใหม่ แช่สปาเท้า ฝึกและดูมวยไทย นวดไทย นั่งรถแดง(สองแถวแบบเชียงใหม่) การขี่ช้างหรือการท่องเที่ยวตามนอกตัวเมืองเชียงใหม่ รวมถึงตอนนี้คำทักทายไทยก็ติดปากชาวจีนมาก หากชาวจีนรู้ว่าเป็นคนไทยก็จะรีบทักทายว่า "สวัสดีครับ" หรือ "ใจเย็นๆ" ซึ่งทั้งหมดเป็นประโยคที่นักแสดงพูดในหนังและสร้างความประทับใจให้ผู้ชมไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ
จากปรากฏการณ์นี้ทำให้มองย้อนไปว่า สิ่งที่ประเทศไทยกำลังได้ผลพลอยได้ชนิดที่ไม่ต้องลงทุนประชาสัมพันธ์ผ่านองค์กรหรือผ่านการสนับสนุนในการร่วมทุนสร้างเลยนั่นคือ ความเป็นไทยแบบจริงๆที่สัมผัสได้จากมุมมองชาวจีน ทำให้ชาวจีนเห็นว่า การไปท่องเที่ยวเมืองไทยนั้นควรจะต้องท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง เมืองไทยเหมาะกับทุกเพศทุกวัยและสามารถท่องเที่ยวได้ทั้งแบบหรูหราและประหยัด ทุกฉากในหนังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่มีชื่อเสียงมาก่อน เลือกสถานที่เรียบง่ายแบบคนไทยจริงๆ เคารพถึงความศรัทธาและความเชื่อแบบไทย ขณะนั่งดูไปยังเผลอคิดว่า "เมืองไทยคงเป็นเมืองที่ดูสงบและพักผ่อนเยียวยาทางจิตใจของชาวจีน" เนื่องจากหนังมีการพูดถึงการหลบมาปลีกวิเวกของเจ้านายใหญ่เพื่อมาปฏิบัติธรรมในเชียงใหม่จนทำให้เกิดเรื่องราวมากมายขึ้น หรือการนำต้นไม้เล็กๆ มาเที่ยวและไปไหว้พระด้วย เพราะเชื่อว่าผลบุญที่มาวัดไทยจะส่งผลไปให้ผู้เป็นแม่ที่ป่วยในเมืองจีนให้หายเร็ววันขึ้น เป็นต้น ซึ่งถือเป็นมุมมองจากชาวจีนทั่วไปที่มีต่อเมืองไทยและสะท้อนออกมาให้เห็นว่าเป็นมุมมองในแง่บวกมาก
รูป C สาวประเภทสองไทยที่โด่งดังจากหนังเรื่องนี้
สำหรับชาวไทยที่ชื่นชอบหนังตลกจีนอยู่แล้ว ไม่ควรพลาดเรื่องนี้แต่จะเข้าฉายที่เมืองไทยเมื่อไรนั้นสามารถติดตามจากสื่อต่างๆได้ในปีหน้า เพราะขณะนี้ชาวจีนเองยังแห่ไปดูหนังเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องจนทำรายได้ไปแล้วกว่า 700 ล้านหยวน และคาดว่าจะถึง 1,000 ล้านหยวนในอีกไม่นาน รวมถึงกำลังทำลายสถิติเป็นหนังที่ทำรายได้สูงที่สุดในจีนของปีนี้โยแซงหน้าไทเทนิค 3 D สำหรับผู้เขียนเอง และอีกรายได้ที่ชาวจีนพอใจจะจ่ายนั้นคือ การมาเที่ยวเมืองไทยโดยเฉพาะเชียงใหม่ ซึ่งมีข้อมูลยืนยันแล้วว่า มีชาวจีนตัดสินใจมาเที่ยวเชียงใหม่เพิ่มขึ้นอีก 5 เท่าตัวจากหนังเรื่องนี้ ยอดจองทัวร์ไปเที่ยวเมืองไทยก็ยาวยันตรุษจีนหน้าและการเที่ยวแบบแบคแพ็คของชาวจีนก็มีมากขึ้น ส่วนสาวประเภทสองไทยที่เข้าร่วมแสดงในหนังก็ได้การตอบรับและกล่าวถึงเป็นอย่างมาก คาดว่า เธอคงได้เดินทางมาโชว์ตัวรับทรัพย์ไปจากหนังเรื่องนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้สร้างหนัง นักแสดง ผู้ชมหรือเมืองไทยต่างได้รับประโยชน์ร่วมกันและมีความสุขส่งสิ้นปี 2012 กันถ้วนหน้า
หากต้องให้คะแนนเหมือนนักวิจารณ์หนังทั่วไป คงให้คะแนนหนังเรื่องที่ 4 ดาวจาก 5 ดาว จะขอหัก 1 ดาวในฐานที่หนังเรื่องนี้ทำให้คนไทยอย่างเราหัวเราะแต่น้ำตาซึมเพราะว่า "คิดถึงเมืองไทย"
สุชารัตน์ สถาพรอานนท์