"อ้าวนั่นไงมากันแล้ว" พัลลภชี้ไปที่หนุ่มสาวชาวไทยที่เดินสะโหลสะเหลมาที่โต๊ะรับประทานอาหารของเรา
"สงสัยจะสั่งอาหารไม่ทันแล้ว" ฉันว่า
"งั้นเอาแค่กาแฟร้อนกับโกโก้ร้อนคนละแก้วก็พอค่ะ" ยุรีว่าทั้งที่ยังไม่ได้ปลดกระเป๋าออกจากไหล่
เก้าโมงตรงไกด์เดินเข้ามาตามเรา ซึ่งปรากฎว่ากลุ่มเด็กอเมริกันที่เพิ่งมาเช็กอินเข้าพักเมื่อเช้าและนั่งอยู่โต๊ะข้างกับเราร่วมเดินทางไปชมสุสานทหารจิ๋นซีกัเราด้วย
หลังจากล้อรถหมุนก็ไม่ปรากฎเสียงจากพวกเราคนใดเล็ดลอดออกมา หรือถ้ามีเสียงก็คงจะมีเพียงเด็กๆ อเมริกันเหล่านั้นที่สามารถรู้ได้ เพราะเราทุกคนหลับสนิท มาตื่นอีกทีก็ตนรถมาจอดที่โรงงานผลิตตุ๊กตาดินดินเผา
ที่โรงงานแห่งนี้จัดให้เข้าชมกรรมวิธีการผลิตหุ่นดินเผาทหารจิ๋นซี วึ่งจะปั้นตัวและหัวแยกจากกัน แล้วค่อยนำมาประกอบในภายหลัง ซึ่งผู้นำชมบอกว่าเป็นการผลิตที่เลียนแบบมาจากแบบโบราณทุกกระบวนการ เห็นคนงานในส่วนต่างๆ ขมักเขม้นทำงานอยู่ตลอดเวลาอย่างน่าประทับใจ ก่อนจะพาเราเดินวนไปในส่วนซื้อของฝาก เป็นตุ๊กตาสำเร็จขนาดต่างๆ และของฝากอื่นๆ ของซีอานด้วย
"คนรับจองทัวร์บอกว่า เราไม่ต้องซื้อก็ได้" ฉันบอก หลังจากเห็นเพื่อนหลายคนเกรงใจแบบชาวไทย ที่คิดว่าเขาอุตส่าห์พามาแล้วจะไม่ซื้ออะไรติดไม้ติดมือไปบ้างจะเป็นการดีหรืออย่างไร
"ทัวร์แบบจีนเป็นแบบนี้ทุกที่ ก่อนพาเที่ยวหรือหลังพาเที่ยว เขามักจะจัดเราเข้าไปในโรงงานผลิตอะไรสักอย่าง แล้วเอาคนที่สาธิตและพูดเก่งมากล่อม สุดท้ายทุกคนก็จะได้ของฝากติดมือออกไป และไปเสียใจอีกที เมื่อพบว่าซื้อข้างนอกถูกกว่าเป็นไหนๆ" พัลลภเล่าประสบการณ์การขายแบบจีนที่เขาพบมานับครั้งไม่ถ้วนให้เพื่อนฟัง
เราจึงถอยกันออกมารออยู่ข้างนอก ซึ่งปรากฎว่ากลุ่มเด็กอเมิรกันมานั่งอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อไกด์เห็นว่าเราไม่ได้ซื้ออะไร จึงกวาดขึ้นรถอีกครั้ง คราวนี้ได้คนมาเพิ่มอีกสองคนที่นั่งรถเก๋งมากับไกด์คนอื่น เขาคงเห็นว่าไม่คุ้มที่จะนำเที่ยวจำนวนน้อยคน จึงโอนให้มาอยู่ในความรับผิดชอบของมัคคุเทศน์ของเรา
ชั่วเวลาอีกชั่วโมงเศษที่รถมุ่งหน้าไปยังสุสานหุ่นทหารจิ๋นซี เราก็ไม่ปล่อยให้เสียเปล่า ต่างหลับไหลกันเอาแรงไว้ทัศนาสิ่งที่เป็นจุดหมายเดินทางที่แม้จริงของเราในครั้งนี้
สุสานหุ่นทหารจิ๋นซีตั้งอยู่ด้านหน้าภูเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน โดยด้านหน้ามีแม่น้ำทอดขวาง ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยทุกประการ
หลุมฝังหุ่นทหารจิ๋นซี 3 แห่งที่เปิดให้เข้าชมนี้เป็นเพียง 1 ใน 3 ของทั้งหมดเท่านั้น คนนำเที่ยวบอกเราว่าส่วนที่เลหือนั้นทางการยังไม่สามารถขุดค้นต่อได้ เนื่องจากว่าเทคโนโลยีที่มีในปัจจุบันยังไม่วิเศษเพียงพอที่จะทำได้ เนื่องจากพบว่าภายในส่วนที่เป็นสุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้จริงๆ นั้นมีสารปรอทจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อทั้งผู้ที่ทำการขุดค้น และยังจะทำลายซากโบราณวัตถุด้วยหากกระทบกับชั้นบรรยากาศภายนอก จึงยังต้องรอเวลาต่อไป โดยในส่วนที่เป็นสุสสานจิ๋นซีนั้น เดิมทีจะเป็นภูเขาทรายเตี้ย รูปทรงคล้ายปิรามิดของอียิปต์ ซึ่งต่อมาทางการได้ปลูกต้นไว้ปกคลุมพื้นนี้ไว้ เพื่อให้หน้าดินมีความชุ่มชื้นและไม่ถูกทำลายไปกับกาลเวลาโดยง่าย
หุ่นทหารจิ๋นซีที่ยิ่งใหญ่
ส่วนการค้นพบครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นโดยบังเอิญในปี 1974 จากการพยายามขุดหาแหล่งน้ำบาดาลของชาวชาวนาคนหนึ่ง และความสัตย์ซื่อของเขาที่ไปแจ้งต่อทางการ ทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของวงการโบราณคดีจีน ซึ่งหนังสือภาพสี่สีเกี่ยวกับซากโบราณวัตุหุ่นทหารจิ๋นซีที่ถูกพิมพ์ขายในบริเวณพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เขาก็ได้รับส่วนแบ่งลิขสิทธิ์และยังมานั่งแจกลายเซนต์ให้กับผู้ที่ต้องการครอบครองหนังสือนี้ทุกวัน
ส่วนแรกที่เราได้เข้าชมเป็นโรงภาพยนตร์แบบ 360 องศา แสดงให้เห็นตั้งแต่การรบในสมัยโบราณ จนจิ๋นซีสามารถรวบรวมแผ่นดินต่างๆ เข้าเป็นปึกแผ่นได้ครั้งแรก จนมาถึงการพยายามสร้างสุสสานของเขาเองก่อนเสียชีวิต เพราะเชื่อในเรื่องของความเป็นอมตะ ซึ่งเป็นที่มาของ "สุสานหุ่นทหารจิ๋ยนซี" ที่รอเราเข้าไปสัมผัสในห้องต่อไป
ส่วนสองที่ได้ชมเป็นส่วนที่มีการขุดแต่งครั้งแรก เป็นจุดที่ชาวนาแห่งซีอานคนนั้นไปพบ ปัจจุบันมีการสร้างโดมขนาดใหญ่ครอบไว้ เพื่อปรับอุณหภูมิให้คงที่ตลอดทั้งปี ซึ่งมีประโยชน์ในการรักษาไม่ให้หุ่นดินเผาเหล่านี้ถูกทำลายโดยง่าย